ประวัติครูบาอินสม สุมโน
หากกล่าวถึงครูบาพระเถระที่อุดมศีลาจารวัตรอันงดงาม
มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไปของ
อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
ที่นอกเหนือจากหลวงปู่แหวน
สุจิณโณ พระอรหันต์เจ้า
แห่งวัดดอยแม่ปั๋งแล้ว
ก็ต้องครูบาอินสม สุมโน
(พระครูสีลวุฒากร) พระอริยะสงฆ์
แห่งวัดทุ่งน้อย ต.บ้านโป่ง
อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
ผู้เป็นศิษย์สาย
ครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย
นักบุญแห่งล้านนาไทย
ผู้เป็นกำลังสำคัญในการมีส่วนช่วยเหลือ
ครูบาเจ้าศรีวิชัยในการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพจนสำเร็จลุล่วง
เป็นประวัติศาสตร์ของล้านนา…พระเดชพระคุณท่านครูบาอินสม
สุมโน
ผู้พร้อมด้วยศีลาจารวัตรอันงดงามนามอุโฆษ
เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธสาสนิกชนทั้งใกล้และไกล
ท่านเป็นผู้หนักแน่นมั่นคงในพระพุทธศาสนา
ดำเนินตามปฏิปทาที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้อย่างเคร่งครัด
ตลอดจนสิ้นอายุขัย
ปฏิปทาประการสำคัญที่เด่นชัดยิ่งของครูบาอินสม
สุมโน คือ เมตตาธรรม
ที่ท่านมีอยู่
ในการช่วยสงเคราะห์ผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนมาขอความเมตตาจากท่าน
ช่วยให้พ้นจากทุกข์ภัยได้มีความสุข
โดยมิได้เลือกชั้นวรรณะ หมู่เหล่า
ยากดีมีจนอย่างไร…ชีวิตของท่านจึงเป็นชีวิตที่ทรงคุณค่า
เกิดมาเพื่อยังประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนทุกหมู่เหล่า…ดั่งรังสีแห่งสังฆรัตนที่เปล่งประกายให้แสงสว่างแก่โลกมนุษย์
นับว่าเป็นพระสุปฏิปันโนโดยแท้จริง
จากหนังสือปฏิปทาของท่านครูบาอินสม
สุมโน ที่คณะศิษย์พิมพ์ถวาย
เมื่อปี พ.ศ ๒๕๒๘ บอกว่า
ประวัติของครูบาอินสม สุมโน
มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านป่าหวาย
หมู่ ๗ ตำบลบ้านโป่ง อำเภอพร้าว
จังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งเดิมนั้นบ้านป่าหวายขึ้นกับบ้านทุ่งน้อย
หมู่ ๖ ตำบลบ้านโป่ง
อาณาเขตติดต่อกันต่อมาทางราชการแยกบ้านป่าหวายไปขึ้นกับบ้านหนองไฮ
หมู่ ๗
เพราะการไปมาลำบากต้องข้ามน้ำแม่งัด
ละแวกดังกล่าวชาวบ้านส่วนใหญ่อพยพมาจากที่อื่น
เช่น บ้านแม่เหียะ อำเภอหางดง
บ้านแม่แรม บ้านแม่ริม
และจากเมืองเชียงราย ครูบาอินสม
สุมโน เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม
พ.ศ ๒๔๔๔ บุตรของนายแปง นางเที่ยง
เปาะนาค
ฝ่ายโยมบิดาเป็นคนบ้านงิ้วเฒ่า
อำเภอเวียงป่าเป้า
จังหวัดเชียงราย
ส่วนโยมมารดาป็นคนบ้านหนองอาบช้าง
อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
โยกย้ายมาอยู่ที่อำเภอพร้าว
ครูบาอินสม มีพี่น้อง ๔ คน คือ
ครูบาอินสม สุมโน นายตุ้ย เปาะนาค
นายดวงแก้ว เปาะนาค
และนางสาวหน้อย เปาะนาค
วัยเด็กครูบาอินสม
มีหน้าที่เลี้ยงควายและเลี้ยงน้องดังเด็กชาวบ้านทั่วไป
เมื่ออายุ ๑๒
ขวบได้มาอยู่วัดเป็นขะโยมวัดทุ่งน้อย
จึงได้มีโอกาสเรียนหนังสือตัวเมืองล้านนา
ได้ ๑ ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ ๒๔๕๖
และแล้วอนิจจาโยมพ่อของท่านก็ได้เสียชีวิต
ท่านจึงบวชจูงหัว(บวชหน้าไฟ)เพื่อเป็นการทดแทนพระคุณบิดา
ต่อมาก็ได้บวชบรรพชาจริง
เมื่อวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ ๒๔๕๖
โดยมีครูบาคำอ้ายสีธิวิชโย
หรือชาวบ้านเรียกชื่อท่านว่า
ครูบาสีธิ เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อเป็นเณรได้ ๗ พรรษา อายุครบ
๒๐ ปีบริบูรณ์
จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่
๗ เดือนมิถุนายน พ.ศ ๒๔๖๔ ณ
ศาลากลางลำน้ำแม่งัด
มีครูบาคำอ้าย สีธิวิชโย
เป็นพระอุปัชฌาย์ ครูบาเมืองใจ๋
อินทจักโก เจ้าอาวาสวัดบ้านโป่ง
เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และครูบาอุต
อุตตโม เจ้าอาวาสวัดป่าฮิ้น
เป็นพระกรรมวาจาจารย์
นับตั้งแต่นั้นมาท่านได้เล่าเรียนวิชาปฏิบัติธรรมวินัยกับครูบาคำอ้าย
สีธิวิชโย
วัดทุ่งน้อย(ชาวบ้านเรียกครูบาสีธิ)
ครูบาคำจันทร์ วัดท่ามะเกี๋ยง
ครูบาเมืองใจ๋ อินทจักโก
วัดบ้านโป่ง ครูบาอุต อุตตโม
วัดป่าฮิ้น และครูบาชนัญ ธนันชโย
วัดป่าลัน
จนมีความรู้แตกฉานสำเร็จวิชาทุกแขนง
“ท่านครูบาสีธิ
นี้เป็นชาวอำเภอพร้าวโดยกำเนิด
เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงของอำเภอพร้าวในสมัยนั้น
มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวท่านมากมาย
ท่านเป็นผู้อุดมด้านวิชาอาคม
ทั้งความขลังและมหานิยม
สามารถรู้ภาษานกภาษาหนูได้
อีกทั้งมีความเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐาน
มีสมาธิที่แข็งกล้า
เป็นที่เคารพนับถือของพุทธสาสนิกชนในอำเภอพร้าว
โดยเฉพาะพระเถระในอำเภอและต่างอำเภอก็มาขอเรียนวิชากับท่าน”
“เมื่อครั้งที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย
สิริวิชโย (ครูบาศีลธรรม)
นักบุญแห่งล้านนาไทย
เมื่อครั้งที่ท่านมาบูรณะวัดพระธาตุกลางใจเวียง
ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว
ท่านได้มาพำนักและจำพรรษาอยู่ที่วัดพระธาตุกลางเวียง
ในวันอุโบสถศีล
พระภิกษุสงฆ์ต้องเข้าอุโบสถทำพิธีกรรมทางศาสนา
ท่านครูบาสีธิซึ่งอยู่ในวัยชรามากแล้วก็ไปร่วมอุโบสถด้วย
สมัยนั้นทางเดินระหว่างวัดทุ่งน้อยไปยังวัดพระธาตุกลางใจเวียงลำบากมาก
ครูบาอินสมและลูกศิษย์วัดจึงได้ทำเสลี่ยงให้ท่านนั่งไป
ครั้นข่าวคราวทราบถึงครูบาเจ้าศรีวิชัย
ท่านก็รีบมาช่วยหามเสลี่ยงให้ครูบาสีธิไปยังอุโบสถวัดพระธาตุกลางใจเวียง
และระหว่างทางท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยยังบอกกับ
ครูบาอินสมและลูกศิษย์วัดคนอื่นๆด้วยว่า
ท่านครูบาสีธิเป็นพี่ชายของท่านในชาติปางก่อน
และมาพบกันในชาตินี้จึงมาแสดงความนับถือและยึดถือปฏิบัติเป็นแบบอย่างตลอดมา”
“ครูบาอินสม สุมโน
ได้ร่วมปฏิบัติธรรมกับครูบาเจ้าศรีวิชัย
สิริวิชโย
เมื่อครั้งที่ท่านได้มาบูรณะวัดพระธาตุกลางใจเวียง
พอช่วยครูบาเจ้าศรีวิชัยบูรณะวัดพระธาตุกลางใจเวียงเสร็จ
ก็ได้ติดตามไปร่วมสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ
โด ยได้พำนักที่วัดสวนดอก อำเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลาแรมปี”
การเป็นเจ้าอาวาสวัดทุ่งน้อย
ท่านครูบาอินสม สุมโน
ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส
ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์
เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ ๒๔๖๕
สืบจากครูบาสีธิ
ท่านได้เริ่มพัฒนาหมู่บ้านและวัดให้เจริญรุ่งเรืองตลอดมา
ครูบาอินสมได้ปฏิบัติธรรมวินัย
เจริญรอยตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และครูบาอาจารย์ของท่านมาโดยตลอด
…อนึ่งด้วยท่านมีวิชา
ความรู้เรื่องยาสมุนไพรแผนโบราณดี
ชาวบ้านสมัยนั้นจึงมาขอรับการรักษาจากท่านอยู่เสมอ
สำหรับเรื่องพุทธาคมของท่านนั้นได้มีผู้เฒ่าท่านหนึ่งเล่าว่า
มีวัวตัวหนึ่งที่เขาเลี้ยงไว้ดุร้ายมาก
เวลาตอนใกล้ค่ำเขาจะต้องย้ายวัวเพื่อนำมาผูกในโรงเรือน
เขาถูกวัวขวิดจนได้รับบาดเจ็บแทบเอาชีวิตไม่รอดมาถึง๓
ครั้ง
จึงได้มาปรึกษาและขอรับยารักษาตัว
พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ท่านครูบาฟัง
ครูบาก็ให้ยาและเศษผ้าเหลืองมาผืนหนึ่ง
ให้นำไปผูกกับปลายไม้เรียวเมื่อเข้าไปหาวัวหรือสัตว์ดุร้ายต่างๆ
ผู้เฒ่าก็นำไปปฏิบัติตาม
ผลคือวัวดุร้ายตัวนั้นถึงกับหมอบลงไป
ไม่กล้าลุกขึ้นมาขวิดเหมือนก่อน
และยอมให้จับจูงเชือกจูงเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้
เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันในท้องถิ่น
ถึงกิตติศัพท์ความรอบรู้เชี่ยวชาญในสรรพวิชาต่างๆ
ของท่านนั้นมีมากมาย
ท่านเคยบอกกับศิษย์ของท่านอยู่เสมอว่า
อย่าได้หลงอะไรมากนักที่ท่านให้วัตถุมงคลต่างๆไป
ก็เป็นการผูกใจและกำลังใจเมื่อนำไปใช้ที่ถูกที่ควร
ก็ทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายได้
แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม
สิ่งเหล่านี้เมื่อมีแล้วก็ทำให้สุขใจอบอุ่นใจแก่ตนเองและครอบครัว
ครูบาอินสม สุมโน
ได้เผยแผ่พระศาสนาอย่างหนึ่งด้วยการเทศนาธรรมแบบพื้นบ้าน
ด้วยภาษาล้านนาไทยและสอนการทำสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน
ให้แก่คณะศิษยานุศิษย์
ตลอดจนศรัทธาสาธุชนทั่วไป
ทั้งได้ทำการสอนหนังสือพื้นเมือง
ภาษาล้านนาไทย
แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่สนใจ
โดยไม่ปิดบังอำพลาง
ผลที่ท่านได้สร้างคุณงามความดีไว้มาก
ตั้งแต่เด็กจนถึงเฒ่าแก่ชรา
ทั้งงานส่วนตัวและส่วนรวม
เป็นที่ประจักแก่สายตาของชุมชนทั้งหลายมาโดยตลอด
ส่งผลให้ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พัดยศ
ชั้นโท เป็นพระครูสีลวุฒากร
เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ ๒๕๓๕
นำความปิติยินดีมายังศรัทธาสาธุชนเป็นอย่างยิ่ง
แต่ท่านครูบาอินสม
หาได้มีความปิติยินดีไม่
กลับบอกให้คณะศิษย์เอาไปส่งคืน
เพราะกลัวจะเป็นความทุกข์
กว่าลูกศิษย์จะอธิบายให้ท่านเข้าใจต้องใช้เวลานานทีเดียว
ท่านครูบาอินสม สุมโน
ได้มรณภาพด้วยอาการสงบ ณ
วัดทุ่งน้อย เมื่อวันที่ ๑๓
ตุลาคม พ.ศ ๒๕๔๐ เวลา ๑๓.๕๕
น.ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุได้ ๙๖
ปี ๗๖ พรรษา
และได้รับพระราชทานเพลิงศพ ณ
วัดทุ่งน้อย เมื่อวันศุกร์ ที่ ๑๒
กุมภาพันธ์ พ.ศ ๒๕๔๒
ท่านได้จากพวกเราไปก็เพียงรูปกายเท่านั้น
ส่วนนามธรรมชื่อเสียงคุณงามความดีของท่านยังไม่สูญสิ้นไป
สิ่งที่พวกเราพึงกระทำเพื่อเป็นการบูชาพระคุณของท่าน
ก็คือการนำเอาธรรมะ
คำสั่งสอนของท่านมาประพฤตปฏิบัติอย่างจริงจัง
เป็นการน้อมนำรำลึกถึงท่านอย่างแท้จริง
@--------------------- ขอบคุณครับ
---------------------@
---------------- รับประกันความแท้
100% -----------------
---------
เพื่อนๆท่านใดสนใจโทรติดต่อด่วนครับ
---------
--------------- พร บางระจัน
0