:: 泰国佛牌买卖-Budddhism amulet-Thai Buddha Amulets     โดย พร  บางระจัน  

TRAVEL TOOLS

 

id7500003000070


 


 

 

 

 

 

รหัสสินค้า: 000469
ราคา 15,000.00 บ.
ตะกรุดโทน 5 ดอก หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น จ.ตาก

ตะกรุดโทน หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น จ.ตาก

เนื้อตะกั่วโยราณ หุ้มด้วย เนื้อทองเหลืองอีกชั้นหนึ่ง ... ชิ้นนี้เป็นตะกรุดโทนแบบพิเศษ เนื้อใส่ตะกรุดเดิมตอกโค้ตใต้หลอดว่า ม้าเสพนาง ของพิเศษนี้ท่านทำแจกนายพล นายพันและข้าราชการจริงๆ .. ... ครูบาวังท่านเป็นอาจารย์ของอดีตนายกรัฐมนตรีจอมพลถนอม กิตติขจร ครูบาวังท่านได้สร้างวัดบ้านเด่นตั้งแต่ยังเป็นป่าจนกลายเป็นวัดที่เจริญ รุ่งเรืองและเป็นที่รู้จักดังในปัจจุบันนี้ ลูกศิษย์ของท่านมีตั้งแต่ระดับอดีตผู้นำประเทศไปจนถึงประชาชนในระดับรากหญ้า

 

หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน วัดบ้านเด่น จ.ตาก

 

        ครูบาวัง พรหมเสโน อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก เป็นพระเถระที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติครบถ้วนในสมณสารูป มีความเมตตากรุณาแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยท่านได้สร้างวัดบ้านเด่นตั้งแต่ยังเป็นป่าดง จนกลายเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรือง มีผู้รู้จักกว้างขวางอย่างที่เห็นในปัจจุบัน นอกจากนั้น ยังได้สร้างพระเครื่องรางของขลังจนเป็นที่ยอมรับของลูกศิษย์ลูกหาว่าเป็นของดีที่มีคุณค่า ท่านถือกำเนิดที่บ้านต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ย. 2434 ปีเถาะ เป็นบุตรของเจ้าคำปวน และเจ้าบัวเงา ณ ลำพูน บิดามารดาเป็นเชื้อสายเจ้าภาคเหนือ แต่ครอบครัวของพ่อยึดอาชีพค้าขายทำไร่ทำนาตลอดมา มำพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 8 คน เป็นชาย 4 หญิง 4 ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนนามสกุลใหม่เป็น “แก้วมหาวงศ์”


           เมื่ออายุ 12 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดบ้านเหมืองจี้ จนกระทั่งอุปสมบทเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2455 ณ วัดบ้านแป้น อ.เมือง จ.ลำพูน โดยมีพระกันธิยะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการปั๋น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการปุ้ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมเสโน”


         หลังอุปสมบทแล้วได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยครั้งแรกได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดต้นธงชัย อ.แม่พริก จ.ลำปาง จนได้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ 4 พรรษา ต่อจากนั้นได้ธุดงค์ไปช่วยสร้างวัดสองแคว อ.เมือง จ.ตาก อีก 2 พรรษา และได้เป็นเจ้าอาวาสเช่นกัน หลังจากนั้นจึงได้มาสร้างวัดบ้านเด่น ในจำนวนเวลาที่เดินธุดงค์ 12 ปีนั้น มีอยู่ 2 ปีที่ท่านได้ธุดงค์ไปเมืองย่างกุ้งเพื่อเรียนภาษาพม่า และได้เรียนเวทย์มนต์คาถาที่เป็นภาษาพม่าจนมีความชำนาญอย่างดี จึงเดินทางกลับเมืองไทย ในระหว่างทางได้พบป่าแห่งหนึ่งชื่อ “ป่าเด่นกระต่าย” ซึ่งมีความร่มเย็นน่าอยู่อาศัย และมีหมู่บ้านที่ห่างไกลและยากจน จึงคิดสร้างวัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวบ้านในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เริ่มแรกท่านได้สร้างกุฏิมุงหลังคาด้วยไม้แฝกก่อน 3 หลัง ซึ่งนับเป็นสำนักสงฆ์ที่แห้งแล้งยังไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ต่อมาประชาชนในต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งอยู่ในบริเวณที่สร้างวัดบ้านเด่น ได้มองเห็นความจำเป็นของพระสงฆ์ที่ทนทุกข์ยากลำบากในเรื่องความเป็นอยู่ และอาหารการกิน จึงสละแรงกายแรงใจช่วยกันคนละไม่คนละมือร่วมกับพระสงฆ์สามเณร จนได้ศาลาไม้เก่าขึ้นมาหนึ่งหลัง และให้ชื่อว่า “วัดบ้านเด่น” ตามสถานที่ตั้งวัดซึ่งเป้นป่าเด่นกระต่าย เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ป่าแห่งนี้ ทั้งนี้ ก่อนที่วัดบ้านเด่นจะมีชื่อเสียงเด่นสมชื่อสมความปรารถนาของครูบาวัง วัดแห่งนี้ได้รับความอุปถัมภ์จากปลักอำเภอเมืองตาก และครอบครัว รวมทั้งประชาชนทั่วไป ปลัดอำเภอท่านนั้นก็คือ “ขุนโสภิต” บิดาของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อครูบาวัง ซึ่งได้มอบตัวเป็นศิษย์และเป็นผู้บริจาคทรัพย์ร่วมสร้างวัดเป็นจำนวนมาก ครูบาวังท่านเป็นเจ้าอาวาสผู้ถือปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานมาโดยตลอด ได้บำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือสาธุชนผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอมาด้วยความเมตตาปรานี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนมนุษย์ทุกหมู่เหล่า โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทนใดๆ จนมีศิษยานุศิษย์มากมายทั่วประเทศ

        เครื่องรางของท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในภาคเหนือ และมีประสบการณ์ความศักดิ์เข้มขลังก็คือ “ตะกรุด” ซึ่งมีหลายชนิด เช่น ตะกรุด 5 ดอก,9 ดอก,108 ดอก,ตะกรุดจำปาสี่ต้น,ตะกรุดคลอดลูกง่าย,ตะกรุดแหนบใบพลู และสีผึ้งน้ำมนต์ ,ชานหมาก และเหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก ปี2506 นอกจากนี้ ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในเรื่องรักษาไข้และโหราศาสตร์ รวมทั้งมีพรพิเศษอีกประการหนึ่งคือ ท่านสามารถนั่งเทียนสะเดาะเคราะห์ เทียนให้โชคลาภ หรือนั่งเทียนเพื่อให้ชนะคดีความยามขึ้นโรงขึ้นศาล และในเรื่องอื่นๆ วาระสุดท้ายแห่งชีวิต ครูบาวังได้ละสังขารลงด้วยอาการสงบเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2516 เวลา 24.00 น. ณ โรงพยาบาลกำแพงเพชร ด้วยวัย 82 ปี พรรษาที่ 62 โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านเด่น 56 พรรษา

 วัตถุมงคลบางส่วนที่หลวงพ่อได้จัดสร้างไว้ร่วมกับศิษย์เอก คือ อาจารย์เพชรซึ่งได้นำออกมาแจกจ่ายและให้บูชา มีดังต่อไปนี้

1. ตระกรุด 9 ดอก สามกษัตริย์ นาก ทอง เงิน 

2. ตระกรุด 9 ดอก ธรรมดา  
3. ตระกรุด 108 ดอก
4. ตระกรุดจำปา 4 ต้น
5. ตระกรุดคลอดลูกง่าย - เสียบท้อง (ปวดท้อง)
6. ตระกรุด 5 ดอก
7. ตระกรุดแหนบใบพลู 
8. ผ้ายันต์ปลาตะเพียนทอง (มีรูปหลวงพ่ออยู่ตรงกลาง) และแบบเขียนด้วยมือก็มี
9. ผ้ายันต์นางกวัก
10. ผ้ายันต์ม้าเสพนาง
11. ผ้ายันต์อิ่นแก้ว
12. สีผึ้ง พร้อมทั้งสาริกาลิ้นทอง อยู่ในสีผึ้งคู่กัน
13. รูปหล่อหลวงพ่อครูบาวัง หน้าตัก 5 นิ้ว นวโลหะ ขัดเงา และรมดำ
14. พระกริ่งรูปหลวงพ่อครูบาวัง รมดำ เนื้อโลหะผสม  
15. เหรียญรูปไข่หลวงพ่อครูบาวังรมดำ  16. เหรียญเสมารูปหลวงพ่อครูบาวัง
17. เหรียญรูปใบโพธิ์ รูปหลวงพ่อครูบาวัง
18. ล็อกเก็ตหิน รูปหลวงพ่อครูบาวัง
19. ล็อกเก็ตธรรมดา รูปหลวงพ่อครูบาวัง
20. แหวนรูปหลวงพ่อครูบาวัง
21. เหรียญครบรอบ 100 วัน ข้างหน้าหลวงพ่อครูบาวัง ข้างหลังรูปอาจารย์เพชร
22. เหรียญครบรอบ 81 ปี
23. เหรียญพญาพิชัยดาบหัก
24. เหรียญสุโขทัย ด้านหลังพญาพิชัยดาบหัก

 


 

 

หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน  วัดบ้านเด่น จ.ตาก

                      หลวงพ่อครูบาวัง พรหมเสโน  พื้นเพเดิมท่านเป็นชาวจังหวัดลำพูน นามสกุลเดิมของท่านคือ ณ ลำพูน สืบเชื้อสายมาจากเจ้าหลวงเศรษฐีคำฟั้นซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองนครลำพูน และเป็นต้นสกุล ณ ลำพูน สืบสายมาจากเชื้อเจ้าเจ็ดตน เพราะเป็นบุตรของเจ้าฟ้าชายแก้ว ซึ่งเป็นพระโอรสของเจ้าพระยาสุลวฤไชย (พ่อเจ้าทิพย์ช้าง) แห่งสกุลทิพยจักร์

หลวงพ่อครูบาวัง เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๔๓๔ และมรณภาพเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๑๖ ท่านเป็นเพศพรหมจรรย์คือบวชตั้งแต่เป็นสามเณรจนกระทั่งมรณภาพ (บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๒ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๔๕ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่ออายุ ๒๑ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๕๕ ) ในขณะที่ท่านดำรงอยู่ในสมณเพศ ได้จาริกเดินธุดงค์ควบคู่กันไปกับการศึกษาตำราโหราศาสตร์และไสยศาสตร์,ตำราพระเวทมนต์คาถา ทั้งตำราที่เป็นอักษรธรรมของล้านนาและของเมืองพม่าจนแตกฉานและสามารถพูดทั้งสองภาษาได้ด้วยเช่นเดียวกัน รวมทั้งได้เรียนรู้เกี่ยวกับศาสนพิธีต่างๆตามตำหรับโบราณดั้งเดิมของล้านนาและของพม่า เป็นระยะเวลา ๑๖ ปี เมื่อท่านชราภาพจึงย้ายมานั่งหนักที่วัดบ้านเด่น

หลวงพ่อท่านเป็นผู้รู้เชี่ยวชาญในเรื่องของโหราศาสตร์และไสยเวทมนต์คาถารวมทั้งศาสนพิธีตามแบบประเพณีของล้านนา ในระหว่างการถือธุดงควัตร หลวงพ่อท่านได้ประจักษ์ในสัจจะธรรมแห่งการเวียนว่ายตายเกิด จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยส่งเสริมและมุ่งเน้นให้เขาเหล่านั้นทำความดีและรักษาศีลห้าไปพร้อมกันในขณะที่ถือครองวัตถุมงคลของท่านอยู่ในมือ ท่านมีความรู้แตกฉานในการสร้างเครื่องรางของขลัง โดยมุ่งเน้นสงเคราะห์และให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยาม เจ็บ ป่วย ไข้ ท่านทำงานในหลายบทบาทหน้าที่มาก

ในขณะที่ท่านยังดำรงชีวิตอยู่ในสมณเพศท่านไม่เคยที่จะหยุดกิจวัตรของสงฆ์เลย ยกตัวอย่างเช่น การสร้างศาสนสถานและทำนุบำรุงวัดบ้านเด่น จ.ตาก ส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือให้บุตรหลานได้มีการศึกษา บวชเรียนเป็นเณรในวัดและเป็นนักเรียนที่ดีในโรงเรียน (เพื่อติดอาวุธทางปัญญาในการประกอบสัมมาอาชีพซึ่งเรียกว่าเป็นทรัพย์ภายในที่แท้จริง)นี่คือปรัชญาและวิสัยทัศน์ของหลวงพ่อครูบาวัง ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งชายและหญิง ส่วนมากทุกคนชอบเรียกท่านว่า พ่อตุ๊ มีความหมายว่า (พ่อพระ) ที่เรียกเช่นนี้เพราะเป็นการแสดงถึงความเคารพนับถือเทิดทูนอย่างเต็มเปี่ยมในตัวหลวงพ่อท่านนั่นเอง ท่านเป็นพระพรหมจรรย์(ศึกษาปรมัตถ์และพระเวท)ที่ถือศีลบริสุทธิ์เพราะท่านหมดกิเลศ นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไม พระพุทธคุณนัง, ธัมมะคุณนัง, และสังฆะคุณนัง ในวัตถุมงคลของท่านจึงเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และประสบการณ์มากมาย

วัตรปฏิบัติของท่านมุ่งเน้นในการช่วยเหลือและสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ที่มีความทุกข์ กับวลีคำพูดที่ไม่มีวันตายของท่านที่ทุกคนฟังอย่างตั้งใจในคำกล่าวต้อนรับที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนไม่เคยพบพานที่ไหนมาก่อน ในประโยคที่เหมือนกันคือ

 "ขอให้บอกพ่อมาเถิดลูก ไม่ต้องเกรงใจลูกจะเอาอะไรต้องการอะไรจากพ่อ ขอให้ลูกบอกพ่อมาเลย"

นี่คือวลีคำพูดที่เปี่ยมด้วยเมตตาในมาตรฐานเดียวกันหมดทุกคน (ไม่เคยเลือกที่จะปฏิบัติ) ไม่ว่าลูกศิษย์และศรัทธาประชาชนทุกชนชั้น ตั้งแต่ระดับนายกรัฐมนตรีไปจนถึงระดับคนรากหญ้า สิ่งหนึ่งที่อยากกล่าวถึงซึ่งเกี่ยวกับกลุ่มคนที่เป็นโรคบ้าทุกชนิดที่มีความมุ่งหวังต้องการมาพบกับหลวงพ่อเพื่อให้ท่านช่วยรักษาตัวให้หายจากอาการของโรคบ้า หลังจากหายดีแล้วแต่เขาเหล่านั้นไม่มีเงิน ท่านยังให้ความเมตตาเหมือนเดิมด้วยการช่วยสงเคราะห์ค่ารถให้กลับบ้านไปหาครอบครัวและใช้ชีวิตอย่างเป็นปรกติสุขเหมือนเดิม

 ท่านสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง ท่านเป็นพระสงฆ์อันเป็นที่รักยิ่งของทุกคน คุณงามความดีของหลวงพ่อท่านไม่เคยตายจากและจะเป็นอมตะในความทรงจำของเราเสมอ นี่คือหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่เราเรียกท่านคือ " เทพเจ้าแห่งความเมตตา "

 

 

 

THAILAND AMULET CENTER |CHIANGMAI OFFICE
211/45 the City Villa, Soi Ladprao 126
Ladprao Rd, Kwang Prapla,Wang Thong Lang district
Bangkok 10310 Mobile :66-093-3361995     e-mail:amuletcenter@hotmail.com
พระเครื่องเมืองสยาม| โดย พร บางระจัน:
236/2 หมู่ 5 ,ถนน เชียงใหม่ ลำพูน ,ตำบลยางเนิ้ง,อำเภิสารภี จังหวัดเชียงใหม่ 50140
Tel: 66-053-963029,66-093-3361995  Fax : 66-53-963029
Mobile : 66-093-3361995   e-mail:amuletcenter@hotmail.com
Copyright © 2006 Thailand Amulet Center. Website Terms of Use   |   Privacy Statement Find us on Youtube Facebook