'AMULET LUANG PHOR LP BOI WAT MANAO PHRA
LEELA THAI MONK BUDDHA AMULETS
2473BE
พระลีลา หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว สุพรรณบุรี ปี
2473
Product
:000042
Price :500,000.00
Detail:Phra Leela LP Boi Wat Manao
BE2473
Several years ago a man, who lived in Samchuk District Supanburi province, was attacked and shot dead. An event that became gig news on several Thai media.
The shooting had attracted the attention of the media because the police had reported that although shot multiple times many of the bullets had not actually penetrated the skin.
In fact he had died as a result of gun fire to the head and more specifically through the eyes.
It was a time when Samchuk District was notorious for gangland killings, mafia and drugs, and in general shootings were not something that uncommon.
What made this particular killing so newsworthy was the amulet that was being worn by the victim, a Lunag Phor Boi pim, the sacred monk of Wat Manao, Supanburi.
Previously there had been other worshippers who had been shot and not badly injured, none of which had been officially reported. What is known however is that bullets had not penetrated the skin only caused severe bruising.
It was this story that is the reason that Luang Phor Boi’s amulets gained widespread popularity. In fact even today his amulets are highly sought after even though he died almost 50 years ago in BE 2508.
Luang Phor Boi’s sacred amulets are not only respected for the power to stop bullets but also to protect against many other forms of danger such as accidents and evil spirits.
Luang Phor Boi - background
Luang Phor Boi was born in Tubtilek sub-district, Bangplama, Supunburi, a local of the province where the legend of Phra khun Paen amulets originated.
He was ordained a monk when he was aged 21 years at Wat Manao of the same province. Three years later he moved to Wat Chipakhao (official name is Wat Srisudaram) learn ancient Khmer and Dharma. After which he moved to Wat Amrinkositaram for a period of nine years to study high-level meditation and sacred sciences before returning to Wat Manao in BE 2467.
Although he learnt many sacred sciences he always resisted the temptation to create amulets believing that in doing so would obstruct his path to enlightenment.
The number of gansgsters in the province and the threat of violence and danger to the average person caused him to think again as he realized that there was a great need for some form of protection and in BE 2473 he created his first set of amulets.
Sacred Materials
Luang Phor Boi never created any amulet for sale, but only to give to those that needed them, and one of the biggest differences between today’s amulets and those created by monks of a former generation.
He used many types of materials to create amulets but mostly from those that he simply found such as old water bowls, kitchen ware, and clay.
Luang Phor Boi never planned in advance to create amulets, he would simply make them whenever he found that people needed them.
It is known he continued to create amulets until he passed away on January 18, B.E.2508, aged 73 years.
A Perfect Monk
Because of his fame, sacred power, and high respect Luang Por Boi was offered the position of Abbot at many temples, always refusing, preferring to live the life of a humble monk in a simple dwelling at Wat Manao. He was never interested in luxury or position, always giving any donations to others and even the very food he was given was often donated to the poor.
Throughout his entire life all his amulets were given freely to those that wanted them and one of the very reasons that he is as highly respected today as he was then.
'马瑙寺的博伊神父——
Luang Pho
Boi,Wat
Manao,是素攀武里府的著名僧侣之一。作为一个为佛教真正目的而生活的僧侣,他在佛教方面和拥有完整的道德规范方面都受到尊崇。
博伊神父出生于素攀武里府挽普拉玛区挽普拉玛街道三门村,1891年出生,从小对佛教有兴趣,喜欢去寺庙,听布道和听闻佛法。并帮助完成寺庙内的各种任务
马瑙寺博伊神父
打印甘蔗汁声明
1911年出家时,他在Muang区Thap
Tee Lek街道Phatthasima,Wat
Manao出家,学习巴利语和高棉语的学科,直到他精通。三年后,他去了曼谷。并在佛法和纪律领域进一步学习当时在吞武里府的Wat
Chee Pa Khao或Wat
Sri Sudaram,并在冥想领域和基础知识在
Amarin
Kositaram 寺
此外,他还把自己作为龙婆潘的学生。在
Wat Bang Nom
Ko 住了一年,然后于
1924 年返回 Wat
Manao
帕龙波波Khunpaen
Chakra Narai
印刷
他是个独居的僧人,每天凌晨四点起床,祈祷到天亮,然后出去布施。当他回到寺庙时,他会要求寺庙里的所有僧侣排队。然后每天就这样把饭放进他的钵里
当玛瑙寺没有住持时他没有接受这个职位。他的誓言是以传承佛教为定位帮助人们而不接受任何奖励他的玄力,被用来帮助不分种姓的人。都在护身符领域为了刀枪不入还是圣水,已经很神奇很神圣了
此外,各种圣物你所造的,分发给前来敬拜的人,也拥有完美的力量和力量。尤其是刀枪不入的一面直到它成名并口口相传他于
1965
年在他的弟子和奉献者的悲痛中去世。不得不失去持它的僧人,这真是佛教的功德领域
Luang Pho
Boi
开始从木制护身符开始制作圣物。以雕刻供奉的不多,1930年后期开始分别制作护身符、混合黄铜、粘土、槟榔肉和钱币。每件作品都会大量建造,仅用于分发。1936年,Wat
Manao的Luang
Por Boi开始制作粘土护身符。1957年,他制作了一个他形状的槟榔护身符。Luang
Por Boi的硬币,1965
年制造,是一枚切角的方形硬币。和一个充满坐姿的圆形奖牌与
Phatthasima
绑定时创建
半圆硬币在葬礼期间建造
还有许多神圣的物品,如帕龙
Pho Boi。
Somdet Prok
Pho 印花、Leela
印花、Mahesuan
印花、甘蔗预算印花、皮革打孔印花等,无不流行和追捧。
พระลีลา หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว สุพรรณบุรี ปี 2473
รายละเอียด:พระลีลา หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว สุพรรณบุรี ปี 2473 หลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว เริ่มสร้างวัตถุมงคล ในราวปี พ.ศ.2473 เป็นพระเนื้อโลหะผสม เช่น โตก ขันลงหิน เชี่ยนหมาก เป็นต้น ดังนั้น พระเหรียญหล่อของหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว บางครั้งจึงมีสีไม่ค่อยเหมือนกัน หลวงพ่อโบ้ย ประกอบพิธีเทหล่อวัตถุมงคลกันภายใน วัดมะนาว ตอนที่สร้างวัตถุมงคล ท่านไม่ได้จำวัดตลอดทั้งคืน เทหล่อจนใกล้รุ่งสาง ใช้ตะไบแต่งริมขอบทุกองค์ รอยตะไบนี้ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่ง หลังจากฉันเพลแล้ว หลวงพ่อโบ้ยท่านจะนำวัตถุมงคลเข้ากุฏิทำพิธีปลุกเสกอีกครั้งเป็นเสร็จพิธี แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมจะเป็นเหรียญหล่อพิมพ์กลีบบัว, เหรียญหล่อพิมพ์งบน้ำอ้อย, เหรียญหล่อพิมพ์ลีลา, เหรียญหล่อปางลีลา, เหรียญหล่อพิมพ์ขุนแผน, เหรียญหล่อพิมพ์นางกวัก, เหรียญหล่อพิมพ์มเหศวร เป็นต้น วัตถุมงคลหลวงพ่อโบ้ย มีประสบการณ์มากมาย เล่าลือกันว่า เคยมีคนโดนยิงตกน้ำยังไม่เข้า มีเพียงแต่รอยไหม้เท่านั้น และอีกรายยิงต่อสู้กับโจรปล้นบ้าน ถูกยิงอย่างแรงจนหงายหลัง แต่กระสุนปืนไม่ระคายผิว ชาวสุพรรณฯ ต่างโจษขานเรื่องนี้กันไปทั่ว
หลวงพ่อโบ้ย
วัดมะนาว –
หลวงพ่อโบ้ย
วัดมะนาวเป็นพระเกจิชื่อดังรูปหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี
เป็นที่เคารพเลื่อมใสทั้งด้านพุทธาคมและความมีศีลาจารวัตรครบถ้วนสมเป็นพระภิกษุที่ดำรงตนเพื่อพระพุทธศาสนาโดยแท้
หลวงพ่อโบ้ย
ถือกำเนิดที่บ้านสามหมื่น
ต.บางปลาม้า
อ.บางปลาม้า
จ.สุพรรณบุรี
เกิดเมื่อปี
พ.ศ.2434
ท่านมีแววที่จะใฝ่ใจในพระพุทธศาสนามาแต่วัยเด็ก
ชอบเข้าวัด
ฟังเทศน์ฟังธรรม
และช่วยเหลือการงานต่างๆ
ภายในวัด
หลวงพ่อโบ้ย
วัดมะนาว
พิมพ์งบน้ำอ้อย
เมื่ออายุครบบวชในปี
พ.ศ.2454
จึงอุปสมบท ณ
พัทธสีมาวัดมะนาว
ต.ทับตีเหล็ก
อ.เมือง
ศึกษาด้านพระธรรมวินัยทั้งภาษาบาลีและภาษาขอมจนแตกฉาน
เมื่อครบ 3
พรรษา
จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
และศึกษาเพิ่มเติมด้านพระธรรมวินัย
ที่วัดชีปะขาวหรือวัดศรีสุดาราม
จ.ธนบุรี
ในสมัยนั้น
และด้านวิปัสสนากรรมฐาน
และสมถกรรมฐาน
ที่วัดอัมรินทร์โฆสิตาราม
นอกจากนี้
ท่านยังฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษากับหลวงพ่อปาน
ที่วัดบางนมโคเป็นเวลา
1 ปี
ก่อนจะเดินทางกลับมาจำพรรษาที่วัดมะนาวในราวปี
พ.ศ.2467
พระหลวงพ่อโบ้ย
พิมพ์ขุนแผนจักรนารายณ์
เป็นพระมักน้อยถือสันโดษ
ตื่นตี 4
ทุกวัน
สวดมนต์จนกระทั่งรุ่งสางจึงออกบิณฑบาต
พอกลับมาถึงวัดก็จะขอให้พระภิกษุที่วัดทุกรูปยืนเข้าแถว
แล้วตักข้าวในบาตรของท่านใส่บาตรพระทุกรูปเช่นนี้ทุกวัน
เมื่อครั้งวัดมะนาวขาดเจ้าอาวาส
ท่านก็ไม่ยอมรับตำแหน่ง
ปฏิปทาของท่านคือ
มุ่งเน้นเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นที่ตั้ง
และช่วยเหลือผู้คนโดยไม่ยอมรับผลตอบแทนใดๆ
ความมีพุทธาคมเข้มขลังของท่านใช้ช่วยเหลือผู้คนไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ
ทั้งด้านการลงยันต์
เพื่อความคงกระพันชาตรี
หรือน้ำมนต์ซึ่งมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์มากแล้ว
นอกจากนี้
วัตถุมงคลต่างๆ
ที่ท่านสร้างเพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนที่มานมัสการก็ทรงไว้ซึ่งพุทธาคมและความเข้มขลังครบเครื่องเช่นเดียวกัน
โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี
จนเป็นที่เลื่องลือกล่าวขวัญกันปากต่อปาก
ท่านมรณภาพในปี
พ.ศ.2508
ท่ามกลางความเศร้าโศกของลูกศิษย์ลูกหาและพุทธศาสนิกชนที่เคารพศรัทธา
ที่ต้องสูญเสียพระภิกษุผู้ทรงไว้ซึ่งนับเป็นเนื้อนาบุญแห่งพุทธศาสนาโดยแท้จริง
หลวงพ่อโบ้ยเริ่มสร้างวัตถุมงคลโดยเริ่มที่พระไม้
โดยแกะสลักไว้บูชามีจำนวนไม่มากนัก
ต่อมาในปี
พ.ศ.2473
จึงเริ่มสร้างพระเนื้อทองเหลืองผสม
เนื้อดินเผา
เนื้อชานหมาก
และเหรียญตามลำดับ
การสร้างต่อครั้งจะสร้างเป็นจำนวนมากและใช้สำหรับแจกจ่ายเท่านั้น
ในปี
พ.ศ.2479
หลวงพ่อโบ้ย
วัดมะนาวท่านเริ่มสร้างพระเนื้อดินเผา
ในปี
พ.ศ.2500
ท่านสร้างพระเนื้อชานหมาก
เป็นรูปท่าน
เหรียญของหลวงพ่อโบ้ยสร้างในปี
พ.ศ.2508
คือเหรียญสี่เหลี่ยมตัดมุม
และเหรียญกลมนั่งเต็มองค์
สร้างเมื่อคราวผูกพัทธสีมา
ส่วนเหรียญกลมครึ่งองค์นั้น
สร้างในคราวฌาปนกิจ
วัตถุมงคลยังมีอีกมากมาย
อาทิ
พระหลวงพ่อโบ้ย
พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์
พิมพ์ลีลา
พิมพ์มเหศวร
พิมพ์งบน้ำอ้อย
พิมพ์ปรุหนัง
ฯลฯ
ซึ่งล้วนเป็นที่นิยมและแสวงหาทั้งสิ้น
@---------------------
ขอบคุณครับ
---------------------@
---------
เพื่อนๆท่านใดสนใจโทรติดต่อด่วนครับ
---------
---------------
พร บางระจัน
093-3361995
-----------------
|