TRAVEL TOOLS

 

id7500003000070


 


 

    

 

statue of Luang Por Khun Parisuttho, size 5 inches, model Khun Baramee 9 Yod, 3rd Army Region

รูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ขนาด 5 นิ้ว รุ่น คูณบารมี 9 ยอด กองทัพภาคที่ 3

Price : 9,999.00 thai baht

Product :000096

Model: BC 2537

worldwide delivery services



รายละเอียด:รูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ขนาด 5 นิ้ว รุ่น คูณบารมี 9 ยอด กองทัพภาคที่ 3 สร้าง ปี 2537 ออกที่วัดไชยสถาน สารภี จ.เชียงใหม่ สร้างน้อยรูปแบบสวยงาม

รายละเอียด
พระบูชาหลวงพ่อคูณ รุ่น "คูณบารมี 9 ยอด" ปี37

มิติ : ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อโลหะผสม

จัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2537 โดยกองทัพภาคที่ 3 เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง เพื่อเฉลิมฉลองพระพุทธเจดีย์ 9 ยอด ที่วัดแห่งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และน้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ( 9 ยอดพระเจดีย์)

พระบูชารุ่นนี้ปลุกเสกที่วัดไชยสถาน อ.สารภี จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น "คูณบารมี 9 ยอด"

เนื่องด้วยหลวงพ่อคูณ เคยมาพำนักเพื่อเจริญภาวนาที่วัดไชยสถาน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ในหลายครั้ง อีกทั้งอดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้เคยเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อคูณมาก่อน อีกทั้งในอดีตที่ผ่านมาทางวัดได้จัดสร้างพระเครื่องในหลายรุ่น ที่เกี่ยวเนื่องกับหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ซึ่งหลวงพ่อคูณ เมตตาเดินทางขึ้นมาปลุกเสกให้ด้วยตนเองในทุกคราว

เป็นพระบูชาที่มีอัตลักษณ์อันโดดเด่น 1ใน 2 รุ่นนิยมที่หลวงพ่อคูณครองผ้าจีวรแบบพาดจากคอลงมา ซึ่งบางท่านเรียกการครองจีวรแบบนี้ว่า "ห่มคลุมมังกร" (อีกรุ่นหนึ่งที่ครองผ้าแบบนี้ก็คือพระบูชารุ่นเทพประทานพร ปี 37)

สังฆลักษณะสวยสดงดงาม มีความละเอียดปราณีต วิจิตรบรรจง โดยเฉพาะที่บริเวณฐานส่วนริ้วจีวรมีความคม ชัด ลึก มากเป็นพิเศษ

เป็นพระบูชาหลวงพ่อคูณรุ่นหนึ่งเดียวที่กองทัพบกจัดสร้าง

ใต้ฐานองค์พระเทปิดด้วยปูนพลาสเตอร์ แล้วปั๊มตราสัญลักษณ์ของวัดไชยสถาน ด้วยหมึกสีม่วงน้ำเงิน

วัดไชยสถาน เป็นวัดสำคัญและเก่าแก่อีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เดิมเป็นวัดร้าง ผู้ที่มาสร้างวัดคนแรกในที่ดินวัดร้างแห่งนี้นั้น คือ นายใจ ไม่ทราบนามสกุล ได้มาสร้างวัดเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๘๗ ในสมัยรัตนโกสินทร์ ชาวบ้านมักเรียกว่า “วัดน้อย” และต่อมาชาวบ้านเห็นว่า สมควรตั้งชื่อวัดให้สอดคล้องกับผู้มีจิตศรัทธามาสร้าง จึงเรียกชื่อวัดว่า “วัดใจสถาน” ต่อมาเสียงเพี้ยนจากใจ เป็น ไชย ดังนั้นจึงเรียกว่า “วัดไชยสถาน” แทน ตั้งแต่นั้นตราบจนทุกวันนี้

พระพุทธเจดีย์ ๙ ยอด นั้นหมายถึงการน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ การสร้างพระพุทธเจดีย์ ๙ ยอดนั้น ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๖ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ (เพื่อให้ทันวาระเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบนักษัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปี 2530)

คณะกรรมการวัดได้กราบอาราธนาพระเดชพระคุณเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธโร ป.๙) กรรมการเถรสมาคมวัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร เป็นองค์ประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์

พระพุทธเจดีย์ ๙ ยอดนี้ ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์โดยใช้ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น ๒๒ ล้านบาท จัดว่าเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ที่มีความสวยงาม และโดดเด่น ทั้งยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นล้านนา

และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ปูชนียสถานแห่งนี้ คณะกรรมการวัดได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอพระราชทานอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนินทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระราชทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ณ วัดบวรนิเวศมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๙ (ซึ่งเป็นปีกาญจนาภิเษก ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นหาที่เปรียบมิได้


Luang Por Koon was borned on Thursday, 4th October BE2466. He was raised in a well off family. His grandfather was an influential person and very well-known in Nakon Raatchaseemah province. He also kno
wn to have Wichah (magic power), and many people were afraid of him.

When Luang Por Koon was 7 years old , his grandfather brought him to study Thai and Pali under Ah Jahn Cheum, Ah Jahn Saai and Pra Ah Jahn Lee in a temple near his house. Luang Por Koon was ordained as a monk at the age of 21 years old at Wat Thanon HakYai on 5th May BE2487. Pra Kru Wijahn Dtigit was the preceptor. Pra Kru Atigahn Torng Suk was his dhamma teacher. His monk's name is Pisuttoh.

Luang Por Koon stayed in Wat Thanon HakYai to study dhamma, in addition Luang Por Koon also learned under Luang Daeng Wat Nong Poh. He learned dhamma, sammahdti and Wichah (magic) from Luang Por Daeng.

Luang Por Koon was very diligent when studied under Luang Por Daeng. Seeing that Luang Por Koon was so keen in learning, Luang Por Daeng brought Luang Por Koon to meet Luang Por Kong who was the abbot of Wat HatYai. Then, Luang Por Koon became the disciple of Luang Por Kong.

Luang Por Kong was a Pra Tudong (forest monk) and brought Luang Por Koon to Tudong (forest dwelling). Besides dhamma and sammahdti, Luang Por Kong also taught Luang Por Koon Wichah (magic) on inserting takrut into a person's arm. After learning from Luang Por Kong for some time, Luang Por Koon went Tudong alone. He went as far as Laos and Cambodia. He stayed in the deep forests of Laos and Cambodia for many years.

During the rainy season, if Luang Por Koon was near town, he would stayed in any one of the temple near town to Khow Pansah (rainy season for a monk to stay indoors), if he was still in the forest, he would stay in the forest and continue his Tudong.

Luang Por Koon returned to Thailand after more than 10 years of Tudong, and reside at Wat Bahn Rai, Nakon Raatchaseemah. The first time, Luang Por Koon came to Wat Bahn Rai, the temple was in bad condtion. There was only a old Salah (shether), Bot (hall) and Guti (place where Buddha Statue will be placed).

Luang Por Koon seeing that was determined to re-build this temple. He approached the abbot of the temple at that time, and asked him for his help. The abbot told him that the temple did not have much fund (only 10,000 bahts) and asked Luang Por Koon how much money he needed to re-build the temple. Luang Por Koon replied that he needed 3 to 4 million bahts. When the abbot heard that, he said that he had no ability to help, though it was his duties. Luang Por Koon, then asked the villagers and his lay disciples to source for fund. Many people came forward and helped. The total fund collected was almost 2 million bahts and Wat Bahn Rai was re-built. Luang Por Koon was gradually gaining popularity in Nakon Raatchaseemah.

Whenever, people heard Luang Por Koon wanted to build a temple or a school, many people would come forward to help. Luang Por Koon had built many schools, temples and hospitals in Nakon Raachaseemah. The devotees who go to Wat Bahn Rai, be it rich or poor, Luang Por Koon will meet them personally and bless them. He would specially make time for the poorer devotees, because to Luang Por Koon, the poorer devotees need to earn a living, and thus their time is more precious comparing to the richer ones who had already have a stable livelihood.

Luang Por Koon chanted the most amulets in Thailand. Many temples and people would create the amulets and asked him to bless. He seldom rejected anyone when come to him for blessings. Luang Por Koon is very good in the Wichah of inserting takrut. He would personally insert the takrut under the arm of the devotees, these takrut are very well proven to protect a person from accidents, Metta and as well as Kong Grapan (immunity from weapons).Almost 20 years, Luang Por Koon had chanted and inserted takrut, but now Luang Por Koon had stopped due to poor health. However, he will still meet and bless the devotees who go to Wat Bahn Rai to pay respect to him.

 

THAILAND AMULET CENTER |CHIANGMAI OFFICE
211/45 the City Villa, Soi Ladprao 126
Ladprao Rd, Kwang Prapla,Wang Thong Lang district
Bangkok 10310 Mobile :66-093-3361995     e-mail:amuletcenter@hotmail.com
พระเครื่องเมืองสยาม| โดย พร บางระจัน:
236/2 หมู่ 5 ,ถนน เชียงใหม่ ลำพูน ,ตำบลยางเนิ้ง,อำเภิสารภี จังหวัดเชียงใหม่ 50140
Tel: 66-053-963029,66-093-3361995  Fax : 66-53-963029
Mobile : 66-093-3361995   e-mail:amuletcenter@hotmail.com
Copyright © 2006 Thailand Amulet Center. Website Terms of Use   |   Privacy Statement Find us on Youtube Facebook