window.isMainPinterestSite = true;
Luang Phor Sod,Paknam 寺,Phasi Charoen,一位著名的上师僧人,  

TRAVEL TOOLS

 

id7500003000070


 


 

Luang Phor Sod,Paknam 寺,Phasi Charoen,一位著名的上师僧人, Luang Phor Sod,Paknam 寺,Phasi Charoen,一位著名的上师僧人,

Luang Phor Sod,Paknam 寺,Phasi Charoen,一位著名的上师僧人,

 

Luang Phor Sod,Paknam 寺,Phasi Charoen amulet Thailand  BE 2500

 พระผงของขวัญหลวงพ่อสด รุ่นแรก ปี 2500 วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

Name of the image of Buddha: RIAN LUANG POR  PAKNAM
Supporter of casting: Luang Por Sod
Location of Casting or Finding: Phra Phong, Pak Nam Temple of Chao Prakhun Phramongkolthepmuni or Luang Por Sod, Pak Nam Phasi Charoen Temple,
Year of Casting: (B.E. 2500)
Praise of the image of Buddha: merciful Trading prosperity

Product: 000282

Price:5,000,000.00 Baht

來自 Chao Prakhun Phramongkolthepmuni 或 Wat Pak Nam Phasi Charoen 的 Luang Phor Sod 的 Pak Nam 寺的禮物護身符,吞武里是一個非常有名的護身符,受到很多人的崇拜。以及想知道很多初步原理因此,應該看到,應該對這種流行的護身符進行初步討論,因為它無法通過電話或電子郵件進行解釋。

Chao Khun Phramongkolthepmuni (Sod) Wat Paknam Phasi Charoen
Chao Khun Phramongkolthepmuni (Sod) Wat Paknam Phasi Charoen


Chao Khun Phramongkolthepmuni (Sod) 於 1884 年 10 月 10 日出生在素攀武里府宋皮農區宋皮農分區的宋皮農樓,Yom 的父母 Ngern 和 Sudjai Mee Kaewnoi 夫人開始做生意。有5個兄弟姐妹,母親和父親

Luang Phor Sod 是一位真正的思想家,從小就一直在這樣做。年輕時,他在松披農寺隨僧侶學習。後來,他在佛統府邦連縣 Wat Bang Pla 跟隨 Phra Achan Sap 學習字母表。當他達到出家年齡時,他進入了松披農寺的 Kasawaphat 的保護傘,並與素攀府的 Wat Pratu San 寺的 Phra Achan Dee 一起擔任導師。 Phra Kru Vinyanu Yok (Niang Inthachoto) 是一名僧人。 Phra Ajarn Nong Inthasuwanno 是一位僧人。獲得綽號“昌達薩羅”

廣告


蘇德神父打算學習佛法和內觀,直到他分手。然後從許多禪修專家如 Phra Mongkolthiphayamuni 那裡尋求更多的知識。 Chakwandi Rachawat Temple, Bangkok, Phra Achan Dee, Wat Pratu San Temple, Suphan Buri Province, Phra Ajarn Nong松披農寺Suphan Buri Province, Phra Achan Niam Wat Noi, Suphan Buri Province, Phra Sangwaranuwong Wat Ratchasittharam Bangkok、Phra Khru Yanwirat(池塘)Wat Phra Chetuphon Wimonmangklaram Bangkok、Phra Ajarn Singh、Wat Lak Tham、曼谷和Phra Ajarn Pluem、Khao Yai Temple、Kanchanaburi 省等。

1920 年,Luang Por Sod 被任命為 Wat Pak Nam 的住持。治理和發展寺廟直到繁榮立志弘揚佛法直到受到所有親戚和奉獻者的尊敬,並擁有眾多的弟子你已被提升到軍銜。君主的最後等級“Phra Mongkolthepmuni”於1959年2月3日去世,享年75歲和53歲。
這個“Wat Pak Nam Phong 禮物護身符”是在 Luang Por Sod 擔任住持時製作的。作為禮物送給那些有信心幫助建立 Phrapariyattidhamma 學校的人這是第一代功德。並把這個護身符作為紀念品,所謂的“帕禮物”,它是作為粉末護身符製作的包含各種聖物主體為石膏粉,按方子寫成法寶,如Phong Maharaj、Phong Itthije、Pong Patamung等,還有供奉的干茉莉花等其他材料。 Luang Por Sod 本人的髮際線。
第1季
Phra Wat Paknam 有 3 代。看來佛陀以慈悲、大福、大福、無敵著稱,直到據說“如果有白南寺的和尚和你在一起,你不會死在水里,不會死在陸地上,也不會死在空中。不缺好運並且價值數十億如果你有什麼願望,那就祈禱吧,一切都會成功的。”因此,發現某些部件經過塗漆以提高耐用性。
第一帕北南它是一種柔軟的白色粉末,身體乾燥柔軟。看起來像皺巴巴的,不硬。當它進入水中時​​,它很容易溶解佛像在方形框架中。佛像以主加持的姿勢盤膝而坐,右手作“手印”,清晰地看到了索引。坐於仰臥蓮花寶座上在Ruean Kaew的拱門下,有一條從拱門橫向擴展的放射線,代表Chaphanrangsri。背面有一個高棉文字的揚持,上面寫著“Thammakhan”。由於建造數量充足,10用了模具,但會有佛教藝術的地標。總的來說,可以認為是初步的如下:
第2季
- 穿過右邊的徑向線有11條線,右邊的徑向線有13條線,老老師說就像一個可以打開和關閉的百葉窗
- Phra Prang 或 Cheek Prang 的臉是圓的,除了下巴尖略尖。
- 佛像豐滿,比二三代高。左臂纖細。舉起的手比其他型號的手指更粗。
- 右耳比左耳長。請注意幾乎所有印刷品。佛像的頂部比底部寬。 (幾乎不明顯)
版本 3(小字)
Wat Paknam,第二代佛像像第一個版本一樣打印。但是肉會添加一種粘合劑,即油膩的油。一絲不苟地壓印更牢固因此,佛像的身軀結實,不皺巴巴,不像第一代那樣顯得蒼老,有不同的獨特地標。
Wat Paknam,第三代佛陀的特徵與第一代和第二代明顯不同。因為原來的模具是用來裝飾的,製作的模具很多,所以需要很多模具。會比第一代和第二代看到佛像的清晰和美麗肉很硬,因為它添加了 Phra Yui 的混合物。佛像會煥然一新,並混有唐月油的氣味。而且,模具中的標識是不同的。
在我看來,分開二代和三代修士不成問題,但看一代修士就難了。因為有漆面和非漆面兩種。還有各種版畫。必須仔細觀察和考慮的數十種其他印

พระผงหลวงพ่อสด รุ่นแรก ปี 2500 วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

ในสมัยที่พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ผลิต “พระผงวัดปากน้ำ” หรือที่เรียกกันว่า “พระของขวัญ” ออกมา 3 รุ่น รุ่นละ 84,000 องค์ ซึ่งร่วมทั้ง 3 รุ่นก็มีจำนวนมากถึง 252,000 องค์ เนื่องจากพระของขวัญของหลวงปู่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว จึงมีผู้คนจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เดินทางข้ามน้ำข้ามทะล ไปรับพระของขวัญของหลวงปู่ที่วัดปากน้ำด้วยตนเอง

หลวงปู่มีดำริให้สร้างพระของขวัญขึ้น เพื่อหาทุนสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ซึ่งท่านจะมอบให้กับญาติโยมที่มีกุศลศรัทธาร่วมบริจาคเงินทำบุญตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไป เพื่อไว้เป็นเครื่องตรึกระลึกนึกถึงบุญ ซึ่งพระผงที่สร้างขึ้นนี้ จะเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปางปฐมเทศนา ด้านหลังจารึกอักษรขอมว่า “ธรรมขันธ์” และหลวงปู่ตั้งชื่อว่า “พระของขวัญ”

พระของขวัญ เป็นพระผงที่มีส่วนผสมของดอกไม้หอมที่ใช้บูชาพระประจำเช้า – เย็น เช่น ดอกมะลิ, ดอกบัว, เกสรดอกไม้ ซึ่งนำมาตากแห้ง แล้วป่นผสมกับแป้ง และที่สำคัญจะมีเส้นเกศาของหลวงปู่ผสมอยู่ด้วย ซึ่งหลังจากผสมเสร็จแล้ว จะนำมาปั้นเป็นก้อน แล้วอัดเป็นบล็อกออกมา พระของขวัญนี้ หลวงปู่จะมอบให้ 1 องค์ ต่อ 1 คน เท่านั้น ไม่ว่าใครจะทำบุญมากขนาดไหน ก็จะได้เพียงแค่องค์เดียว อีกทั้งยังฝากรับแทนกันไม่ได้ หรือแม้รับไปแล้ว หากทำหายไป จะมารับใหม่ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะหลวงปู่กล่าวว่า “พระของขวัญแต่ละองค์นั้น มีเจ้าของหมดแล้ว” ซึ่งก็หมายถึงว่า หลวงปู่ได้คำนวณเอากายละเอียดของผู้ที่ทำบุญกับท่านมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน มาซ้อนในกลางพระของขวัญด้วยวิชชาธรรมกาย แล้วเชื่อมให้ติดกัน (จะเข้าใจเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อได้นั่งสมาธิ จนเข้าถึงพระธรรมกายภายใน และได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย)

การรับพระของขวัญ ต้องรับจากมือหลวงปู่ จึงจะศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เพราะเวลาหลวงปู่มอบให้ ท่านจะใช้วิชชาธรรมกาย บรรจุพระของขวัญซ้อนติดลงไปในศูนย์กลางกายของผู้รับด้วย และเมื่อบรรจุแล้ว พระนิพพานก็จะซ้อนความศักดิ์สิทธิ์ผ่านพระของขวัญซึ่งเป็นเสมือนสื่อ ไปยังผู้เป็นจ้าของพระของขวัญ แล้วจะบันดาลให้ความปรารถนาของเจ้าของพระ สำเร็จได้โดยง่าย สาเหตุที่พระของขวัญของหลวงปู่ศักดิ์สิทธิ์และมีอานุภาพอันไม่มีประมาณได้นั้น เป็นเพราะหลวงปู่ได้กราบทูลพระธรรมกายของพระพุทธเจ้าทั้งหมดว่า จะผลิตของขวัญเอาไว้ให้สำหรับผู้มีบุญที่ได้ทำบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติขึ้นมา โดยหลวงปู่ได้ขออาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ไม่ว่าจะมีมากน้อยเพียงใด ทั้งที่เข้านิพพานไปแล้วตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ หรือเข้านิพพานไปเก่าๆแก่ๆ มีธาตุธรรมแก่ๆ กายใหญ่โตสวยงาม มีอานุภาพมาก มีพลังบุญพลังบารมีมาก โดยไม่ซ้ำธาตุ ไม่ซ้ำธรรม ไม่ซ้ำพระพุทธเจ้า กล่าวคือ เมื่อหลวงปู่อาราธนามาชุดหนึ่ง ท่านก็เอาพลังบุญ พลังบารมี รัศมี กำลังฤทธิ์ อำนาจ สิทธิ เฉียบขาด เอาบุญศักดิ์สิทธิ์ มาทำความศักดิ์สิทธิ์ให้บังเกิดขึ้นกับพระของขวัญ โดยทำตลอดต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนถึงวันออกพรรษา

ผู้รับพระของขวัญองค์แรก ก็คือ หลวงปู่วัดปากน้ำ โดยท่านต้องทำบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติก่อน เพราะหลวงปู่ถือว่าพระของขวัญนี้เป็นของพระนิพพาน ท่านเป็นเพียงผู้ควบคุมดูแลในการผลิตเท่านั้น ดังนั้น ก่อนจะรับพระของขวัญ ท่านจึงร่วมทำบุญด้วยตนเอง 25 บาท แล้วรับไว้ 1 องค์ เป็นองค์ปฐม หรือเป็นองค์แรก จากนั้นพระ – เณรในวัดและเจ้าภาพที่ทำบุญตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไปก็รับเป็นองค์ต่อๆไป ที่สำคัญ เมื่อมีผู้รับพระของขวัญไปแล้ว หลวงปู่ก็ยังคุมทีมงานทำวิชชาให้ทำความละเอียด ทับทวีความศักดิ์สิทธิ์ให้เกิดขึ้นกับพระของขวัญอย่างตลอดต่อเนื่อง ตลอดวันตลอดคืน เพื่อให้พระของขวัญศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้นไป กล่าวคือ เมื่อพระของขวัญไปอยู่กับบุคคลใดแล้ว ก็ให้ไปบันดาลให้เขาสมความปรารถนา ให้ไปปกปักรักษาชีวิตและทรัพย์สินของเขา เมื่อเวลาที่เขาจะเดินทางไปเหนือล่องใต้ โดยทางรถ ทางเรือ หรือไปด้วยยวดยานพาหนะอันใด ก็ขอให้เขาอย่ามีเหตุเภทภัย ให้มีปาฏิหาริย์ไม่ซ้ำปาฏิหาริย์

หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เคยกล่าวไว้ว่า ผู้ที่ได้พระของขวัญไป จะมีสมบัติติดตัวพันล้าน ซึ่งการที่ท่านเปรียบเทียบอย่างนี้ เพราะการถวายปัจจัย 25 บาทเพื่อสร้างโรงเรียนพระปริยัติในช่วงนั้น เป็นการทำบุญถูกเนื้อนาบุญ กล่าวคือ ถูกองค์พระธรรมกายนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน เพราะได้ทำกับหลวงปู่และบรรดาผู้ที่เข้าถึงพระธรรมกายโดยตรง ดังนั้น แม้จะทำบุญจำนวนน้อย เวลาบุญส่งผลก็จะได้มาก และแม้ทำบุญจำนวนมาก เวลาบุญส่งผล ก็จะได้มากยิ่งๆขึ้นไปเป็นทับทวี เหมือนบัณฑิตในกาลก่อนที่ได้ถวายทานแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียว เวลาบุญส่งผล ก็ทำให้เขาได้เป็นถึงพระเจ้าจักรพรรดิ มีสมบัตินับอนันต์ นับภพนับชาติไม่ถ้วนเลยทีเดียว

แม้ว่าในบางครั้ง หลวงปู่อยากจะให้พระของขวัญแก่ผู้ใดเป็นการส่วนตัว ท่านก็ยังต้องให้ผู้นั้นบริจาคปัจจัยทำบุญสร้างโรงเรียนพระปริยัติให้แก่วัดเหมือนกัน เพราะท่านถือว่า ท่านผลิตพระของขวัญออกมาก็เพื่อวัด มิใช่ทำเพื่อส่วนตัว ดังนั้น จึงมอบพระของขวัญให้ผู้ใดไปเปล่าๆไม่ได้ ที่สำคัญหลวงปู่ยังประกาศไม่ให้ใครนำพระของขวัญออกไปแจกนอกวัด ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่ง สมเด็จป๋า (พระสังฆราชองค์ที่ 17) พูดกับหลวงปู่ว่า จะขอพระของขวัญจากหลวงปู่ เพื่อเอาติดตัวไปตามหัวเมืองต่างๆ และเมื่อใครต้องการ ก็จะให้เป็นของขวัญแก่เขา หลวงปู่ได้กล่าวว่า “ทำอย่างนั้นไม่ได้ พระของเรามีคุณภาพจริง ผู้อยากได้ต้องมาเอาเอง ถ้าเอาไปอย่างนั้น ของดีก็กลายเป็นของเก๊ ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส” และท่านยังพูดแถมท้ายอีกว่า “อย่ากลัวเลย...แปดหมื่นสี่พันองค์ 2 หน ก็ไม่พอแจก” ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่หลวงปู่พูดไว้ไม่มีผิด ทั้งๆที่ทางวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ไม่ได้ทำใบปลิวแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์อะไรใหญ่โตเลย แต่เมื่อผู้ที่รับพระของขวัญจากหลวงปู่ไปแล้ว ได้เจออานุภาพและเรื่องราวความมหัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อ ก็ทำให้ข่าวความศักดิ์สิทธิ์ของพระของขวัญแพร่สะพัดกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้มีผู้คนข้ามน้ำข้ามทะเล เหมารถ เหมาเรือ พากันมาจากต่างจังหวัด จากต่างประเทศ เพื่อไปขอรับพระของขวัญกันอย่างเนืองแน่นประดุจวัดปากน้ำมีงานมหรสพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันวิสาขบูชา มีคนเดินทางไปรับพระของขวัญมากถึง 1,500 คน จนทำให้หลวงปู่ต้องย้ายสถานที่มอบพระของขวัญไปที่พระอุโบสถ โดยจัดระบบระเบียบในการมอบพระของขวัญใหม่ โดยหลวงปู่ได้จัดให้มีพระภิกษุคอยจัดคนเข้า – ออกจากพระอุโบสถ คนละประตู คือ ประตูหน้าเป็นทางเข้าไปรับพระ และเมื่อรับแล้วให้ไปออกทางประตูหลัง อีกทั้งในแต่ละรอบของการรับพระ หลวงปู่จะให้คนทยอยเข้ามาจนเต็มพระอุโบสถก่อน จากนั้นท่านก็สั่งปิดประตู เมื่อสาธุชนทยอยกันรับไปเรื่อยๆจนคนในพระอุโบสถเริ่มน้อยลงแล้ว หลวงปู่จึงจะสั่งให้เปิดประตูรับคนเข้าไปใหม่ ในวันหนึ่งๆ หลวงปู่จะอธิบายให้ผู้ที่จะรับพระของขวัญได้ทราบถึงวิธีอาราธนาพระของขวัญเป็นร้อยๆรอบ ซึ่งแต่ละรอบ ท่านยังเล่าถึงอานุภาพของพระของขวัญที่มีคนรับไปแล้วได้ประสบกับตัวเอง ดังนี้

“บัดนี้ ท่านทั้งหลายทั้งหญิงและชายได้เสียสละเวลาให้เป็นส่วนของพระพุทธศาสนาโดยตรง มาสมทบทุนสร้างโรงเรียนพระปริยัติ ที่ท่านได้เสียสละโลกิยทรัพย์สร้างโรงเรียนพระปริยัติอย่างนี้ ได้ชื่อว่าทำถาวรวัตถุไว้ในพระพุทธศาสนา เรียกว่าเป็นศาสนสมบัติให้ศาสนาแล้ว ท่านผู้สร้างสมบัติให้ศาสนานั่นแหละ จักเป็นเหตุที่ตั้งให้มีสมบัติไม่รู้จักสิ้นเสื่อม เหตุนี้ ท่านทั้งหลายที่ได้เสียสละทรัพย์ลงไปแล้ว 25 บาท 30 บาท 50 บาท ตามศรัทธาของตนที่สละลงไปนั้น ได้ชื่อว่าทำผลถาวรให้แก่เจ้าของทรัพย์นั่นเอง ซึ่งจะได้รับผลต่อไปในภายภาคหน้าที่ฝากไว้ในพระพุทธศาสนาเช่นนี้ ไม่เสื่อมทรามนับชาติไม่ถ้วน เพราะท่านบริจาคของ ท่านสละทรัพย์ จะส่งผลให้ท่านในมนุษย์ก็จะส่งผลของมนุษย์ให้ ในทิพย์ก็จะส่งผลที่เป็นทิพย์ให้ ในกามภพนี้จะได้สบสมบัติในภายหน้านับประมาณไม่ได้ เหตุนี้ดังนี้ ท่านทั้งหลายได้เป็นผู้อุปถัมภ์พระศาสนาเช่นนี้ ฝ่ายทางพระศาสนาที่ได้รับสมบัติของท่าน ก็จะมีของตอบแทนแก่ท่าน คือ ของศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเราทั้งหลายยังไม่เคยพบเคยเห็นว่าศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ อาจจะเป็นได้จริงหรือคาดคะเนไม่ถูก ผู้พูดนี้เองเป็นผู้อาราธนาพระพุทธเจ้าในนิพพาน มีธรรมกายมากด้วยกัน ได้ไปอาราธนาพระพุทธเจ้ามานับพระนิพพานไม่ถ้วน นับอสงไขยก็ไม่ถ้วน มาผลิตของขวัญนี้ให้ปรากฏขึ้นในมนุษย์ ธรรมกายในมนุษย์นี้ก็ได้เข้าสมทบด้วย ดูแลการงานนั้นๆ ท่านทำอย่างไร ก็ทำไปตามท่าน พระพุทธเจ้าท่านจัดแจงทำทั้งนั้น ตั้งแต่วันเข้าพรรษาจนกระทั่งถึงวันออกพรรษา วินาทีหนึ่งมิได้หยุดเลย ท่านกระทำความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน พอออกพรรษาแล้ว พอได้อรุณก็สำเร็จด้วยความประสงค์ของท่านในการผลิตของขวัญ องค์ต้นทรงรับสั่งว่า “ของศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้บังเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก” แล้วก็หับพระโอษฐ์ทีเดียว เมื่อรับสั่งดังนี้แล้ว เราก็คำนวณว่า ศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่ไหน คำนวณไม่ถูก

ผู้พูดนี้ก็ได้ลงมือแจกในวันแรม 6 ค่ำ เป็นวันเกิดของผู้พูดนี้ ได้แจกของขวัญออกไป อัศจรรย์ต่างๆ ความศักดิ์สิทธิ์ของของขวัญนั้น ผู้ที่ได้รับไปแล้ว นางเขียว บางไผ่ เป็นผู้หญิงอายุ 80 กว่า ได้รับพระเอาไปแล้วเอาไปไว้บนหลังมุ้ง พอค่ำลงเท่านั้นเปล่งรัศมีสว่างเต็มบ้านเต็มช่อง พากันตกตะลึงเพราะไม่รู้เรื่องอะไรกัน ทะเลิ่กทะลั่กไปตามกันพักใหญ่นานอยู่ แล้วแสงนั้นก็ค่อยโทรมลงไป โทรมลงไป ก็มารวมอยู่ที่สว่างหลังมุ้ง นางเขียวก็รู้ว่าพระของขวัญเอาไว้ที่นั่น แสงสว่างนี้ออกจากพระของขวัญนั้นเอง แต่เช้าเชียวมาหาผู้พูดนี้ บอกว่า “ท่าน...เมื่อคืนนี้แสงสว่างเกิดที่บ้านดิฉัน พระท่านเปล่งรัศมีสว่างเชียว เดิมทีก็ไม่รู้ว่าอะไร แล้วก็มารวมอยู่ที่พระ จึงรู้ว่าพระ” รูปร่างนางเขียวเมื่อวันมารับพระของขวัญนั้น มีโรคภัยไข้เจ็บเป็นประจำอยู่ คืนเดียวเท่านั้น เวลามาบอกตอนเช้า ร่างกายเปล่งปลั่งไปหมด แปลกกว่าปกติเดิมทีเดียว ผิวพรรณเกลี้ยงเกลาไปหมด ดูสะอาดสะอ้าน มีผิวพรรณวรรณะ เขารู้สึกว่าของขวัญนี้อัศจรรย์ แปรชั่วเป็นดีได้ขนาดนี้เชียวหนอ เรารู้สึกว่า ศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่นี้แลหรือ”

ผู้ที่ได้รับพระของขวัญไปบูชาคล้องติดตัว ต่างได้เจออานุภาพพระของขวัญกันมากมายหลายแบบ ซึ่งบางคนก็เจอพระของขวัญของตัวเองพูดได้ กล่าวคือ เวลามีเหตุเภทภัย พระของขวัญจะเปล่งเสียงเตือนเจ้าของให้ไปทางโน้นทางนี้ จนกระทั่งรอดปลอดภัย หรือวันดีคืนดี วันขึ้น 15 ค่ำ อยู่ๆพระของขวัญก็แสดงอานุภาพให้เจ้าของเห็นโดยการลอยขึ้น แล้วเปล่งรัศมีเป็นแสงขาวนวลเท่าลูกมะพร้าวลอยออกไป และพอถึงเวลาก็ลอยกลับคืนมา หรือบางคนได้เจออานุภาพ ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวยจนตัวเองแปลกใจ หรือบางคนตกต้นตาลสูงๆแล้วไม่เป็นอะไรก็มี หรือบางคนประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก คนอื่นตายหมด แต่ตัวเองกลายเป็นคนเดียวที่รอดมาได้อย่างเหลือเชื่อ นอกจากนี้ ยังมีบางคนที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงโดยคนรอบข้างที่ไปด้วยกันเสียชีวิตหมด แต่ตัวเองซึ่งแขวนพระของขวัญติดตัวกลับรอดชีวิตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารที่ออกรบในสมัยสงครามเกาหลี

หลวงปู่ได้เล่าว่า “ที่เขาเล่าในทางเกาหลี ทหารอังกฤษ อเมริกัน ทหารฝรั่งกำลังคุยกันอยู่ มีทหารไทยอยู่บ้าง ลูกระเบิดทำลายมันตกลงกลางประชุมกำลังคุยกันอยู่นั้น ปึงเดียวเท่านั้นตายหมด เหลือไทยคนเดียวมีพระของขวัญอยู่ในตัว ฝรั่งให้เหรียญกล้าหายแก่ไทยคนนั้นยังปรากฏอยู่ นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น”

เรื่องอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของพระของขวัญนี้ หนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ ปีที่ 6 สัปดาห์ที่ 280 วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2503 ได้เสนอข่าวตีพิมพ์จดหมายของ สิบตรี วาสนา อาคมวัฒนะ แห่งกรมผสมที่ 21 ที่เขียนมาจากเกาหลี ซึ่งได้เล่าถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระของขวัญที่ตนและเพื่อนอีกคนหนึ่งได้รับไปจากพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ความว่า “กระสุนปืนใหญ่ของข้าศึกยิงถูกคลังกระสุน ไฟไหม้ถังน้ำมันจนเกิดเป็นแสงอร่ามไปทั่ว ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในที่นั้นต้องกระจัดกระจายไป ปืนและเครื่องเหล็กละลายไปกับกองไฟใหญ่นั้น เพื่อนทหารคนหนึ่งทิ้งห่อพระไว้ ตอนสายๆเพลิงค่อยสงบลงจึงรีบรุดไปยังที่นั่นกัน ก็เห็นพระอันน่าประหลาดที่ห่อผ้าเช็ดหน้าแขวนเด่นอยู่กับเสาเหล็กเป็นที่ประหลาดใจแก่ทหารทั้งหลายเป็นอันมาก เพราะแม้แต่เหล็กก็ยังละลาย แต่ผ้าขาวที่ห่อพระไม่ได้ลงเลขยันต์อะไร กับพระอีกองค์หนึ่ง ยังคงอยู่ในสภาพปกติ มิได้เสียหายเลย เป็นพระเครื่องวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ อีกทั้งตนเองนั้นก็รอดตายจากสมรภูมิหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากมีการยิงขนาดเผาขนกันไม่เว้นแต่ละวัน ก็รอดมีชัยมาได้ทุกครั้ง บางครั้งอยู่ในวิถีปืนที่ยิงมาอย่างหนัก ถ้าไม่มีโอกาสเพ่งศูนย์กลางตัว ก็เพียงภาวนาดังกล่าว และระลึกถึงอาจารย์ คือ หลวงปู่ ก็พอแล้ว สามารถคุ้มกันได้และพลอยคุ้มกันเพื่อนฝูงไปได้อีกด้วย”

 

...ปัจจุบันมีการปลอมพระขึ้นมาผู้เช่าต้องระวังของปลอม..

@----------- ศิษย์รักหลวงพ่อ สายตรง -----------@
@--------------------- ขอบคุณครับ ---------------------@
---------------- รับประกันความแท้ 100% -----------------
--------- เพื่อนๆท่านใดสนใจโทรติดต่อด่วนครับ ---------
--------------- พร บางระจัน 081-7842076 ----------------

 

 

 
THAILAND AMULET CENTER |CHIANGMAI OFFICE
211/45 the City Villa, Soi Ladprao 126
Ladprao Rd, Kwang Prapla,Wang Thong Lang district
Bangkok 10310 Mobile :66-093-3361995     e-mail:amuletcenter@hotmail.com
พระเครื่องเมืองสยาม| โดย พร บางระจัน:
236/2 หมู่ 5 ,ถนน เชียงใหม่ ลำพูน ,ตำบลยางเนิ้ง,อำเภิสารภี จังหวัดเชียงใหม่ 50140
Tel: 66-053-963029,66-093-3361995  Fax : 66-53-963029
Mobile : 66-093-3361995   e-mail:amuletcenter@hotmail.com
Copyright © 2006 Thailand Amulet Center. Website Terms of Use   |   Privacy Statement Find us on Youtube Facebook