รายละเอียด:
พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ล็อกเก็ตแปดเหลี่ยม
มรรคแปด จีวร เกษา ข้างก้นบาตร ไม้กุฎิ ข้าวเปลือก ไม้แคะฟัน พระธาตุ
ล็อกเก็ตบรรจุเกษาหลวงตา เมล็ดข้าวเปลือกในงานบุญประทายข้าว
ไม้เก่ากุฏิหลวงตา ข้าวก้นบาตร สำลีที่หลวงตาเคยใช้ รูปหล่อจิ๋ว
และไม้สีฟันหลวงตา
สุดยอดของมงคลทั้งหมดบรรจุไว้ในล็อกเก็ตองค์นี้ถือว่าเป็นของสุดยอดทั้งนั้น
บูชาติดติวไว้เป็นสังฆานุสติเหมือนมีองค์หลวงตาคอยคุ้มครองเรา
ประวัติ หลวงตามหาบัวญาณสัมปัณโน ( อย่างย่อ )
หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
" ขณะที่จิตสงบอยู่ย่อมปล่อยอารมณ์ที่เคยรบกวนต่าง
ๆ เสียได้ เหลือแต่ความรู้ ความสว่างประจำใจ และความสุขอันเกิดจาก
ความสงบตามขั้นของใจเท่านั้น ไม่มีสองกับสิ่งอื่นใด เพราะว่า
จิตปราศจากอารมณ์ และเป็นตนของตนอยู่โดยลำพัง แม้กิเลส
ส่วนละเอียดยังมีอยู่ภายในก็ไม่แสดงตัว ใจที่ปราศจากอารมณ์
มีความสงบตัวอยู่โดยลำพังนานเพียงไร ก็ย่อมจะแสดงความสุข
ความอัศจรรย์ ความสำคัญ ความมีคุณค่า ให้เจ้าของได้ชมนาน
และมากเพียงนั้น "
กำเนิด ในครอบครัวชาวนาผู้มีอันจะกิน ณ บ้านตาด
อุดรธานี
วันเกิด ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๖
เหตุที่บวช เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี
พ่อแม่ขอร้องให้บวชตามประเพณีอยู่หลายครั้ง ท่านก็ทำเฉย ๆ ตลอดมา
ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด ในครั้งสุดท้ายนี้
ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า หวังพึ่งใบบุญจากการบวชของลูกให้ได้
ถึงกับทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วง
ครั้งนี้ท่านรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจพ่อแม่มาก จึงตัดสินใจ
และยอมบวชตามประเพณี เพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่
โดยตั้งใจไว้ในตอนต้นนี้ว่า จะบวชเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น
พระอุปัชฌาย์ ชื่อ ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม
พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์
เรียนปริยัติ เมื่อได้เรียนหนังสือทางธรรม
ตั้งแต่นวโกวาท พุทธประวัติ ประวัติพระสาวกอรหันต์
ที่ท่านมาจากสกุลต่าง ๆ ตั้งแต่พระราชา เศรษฐี พ่อค้า จนถึงประชาชน
หลังจากฟังพระพุทธโอวาทแล้ว
ต่างก็เข้าบำเพ็ญเพียรในป่าเขาอย่างจริงจัง
เดี๋ยวองค์นั้นสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในป่า เดี๋ยวองค์นี้สำเร็จในเขา
ในเงื้อมผา ในที่สงบสงัด ท่านก็เกิดความเชื่อเลื่อมใสขึ้นมา
อยากจะเป็นพระอรหันต์
พ้นจากทุกข์ทั้งปวงในชาตินี้อย่างพระสาวกท่านบ้าง
เสาะหา..อาจารย์ เดือนพฤษภาคม ๒๔๘๕
เดินทางไปขออยู่ศึกษากับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เหตุการณ์บังเอิญกุฏิที่พักเพิ่งจะว่างลงพอดี
ท่านพระอาจารย์มั่นจึงเมตตารับไว้
และเทศน์สอนตรงกับปัญหาที่เก็บความสงสัยฝังใจมานานให้คลี่คลายไปได้ว่า
ดินฟ้าอากาศแร่ธาตุต่างๆ เขาเป็นของเขาเอง
เขาไม่ได้เป็นมรรคผลนิพพาน เขาไม่ได้เป็นกิเลส กิเลสจริง ๆ
มรรคผลนิพพานจริง ๆ อยู่ที่ใจ หากกำหนดจิตจ่อด้วยสติที่ใจแล้ว
จะเห็นความเคลื่อนไหวของทั้งธรรม ทั้งกิเลสในใจ
ขณะเดียวกันจะเห็นมรรคผลนิพพานไปโดยลำดับ
ยืนยัน...ชาตินี้ ชาติหน้า อดีตชาติ มีจริง
สภาวะธรรมในใจของท่านขณะนั้น
ท่านเคยเล่าให้พระภิกษุในวัดป่าบ้านตาดฟังว่า
"เกิดความสลดสังเวชภพชาติแห่งความเป็นมาของตน
และเกิดความอัศจรรย์ในพระพุทธเจ้า
พระสาวกอรหันต์ที่ท่านหลุดพ้นไปแล้ว ท่านก็เคยเป็นมาอย่างนี้
เราก็เป็นมาอย่างนี้ แต่คราวนี้เป็นความอัศจรรย์ในวาระสุดท้าย
ได้ทราบชัดเจนประจักษ์ใจ เพราะตัวพยานก็มีอยู่ภายในจิตนั้นแล้ว
แต่ก่อนจิตเคยมีความเกี่ยวข้องพัวพันกับสิ่งใด
บัดนี้ไม่มีสิ่งใดจะติดจะพัวพันอีกแล้ว..."