Phra KunPaen Kru Wat Yai Chaiya Mongkhon
Pim Nar Yip Pang MunWichai Nur Din
( Smiling Face )
Price: 500,000.00 baht(20,000.00SGD) 14,706.00US$
Welcome, here we have a Phra Khun Paen,Kru Wat Yai Chai Mongkol,Phra Nakhon Sri Ayutthaya Buddha Amulet, Buddha Amulet Buddha is good luck for men and Love Buddha set in a stainless steel case. These Buddha's we're found many years ago in the Chedi around King Rama 5 age. This Buddha will give you Excellent luck with love, (please enlarge photos !) a real nice piece. Excellent piece for any collection. Please see the ruler in the pictures for size and if your not sure of anything please email before buying. Any viewing is welcome ,all of our Buddha's are from our own family's collection or carefully selected from secondhand markets or other dealers. A fine piece ! If you buy from us ,you Buy Knowing your Buddha is Genuine . Any questions please ask us and please check out our other Buddha's in our shop, many thanks . BUDDHA BLESS.Mahathad Temple(Naresuan was the King of the Ayutthaya Kingdom from 1590 and overlord of Lan Na from 1602 until his death in 1605. Naresuan is one of Thailand's most revered monarchs as he is known for his campaigns to free Ayutthaya from the vassalage of the Taungoo Empire. During his reign, numerous wars were fought against Taungoo Burma. Naresuan also welcomed the Dutch Prince Naret was born in Phitsanulok in 1555/56 He was the son of King Mahathammarachathirat of Phitsanulok and his queen consort, Wisutkasat. His mother was a daughter of Maha Chakkraphat and queen consort Suriyothai. His father was a Sukhothai noble who had defeated Worawongsathirat in 1548 and put Maha Chakkraphat on the throne. Prince Naret, also known as the "Black Prince" had a younger brother Ekathotsarot, known as the "White Prince", and an elder sister, Suphankanlaya In the second siege of Ayutthaya (1563?64), King Bayinnaung of the Taungoo Dynasty of Bago, Burma (formerly known in Burmese as Hanthawaddy (Burmese: and in Thai as rtgs: Hongsawadi led massive armies, invading the country and laying siege to Phitsanulok. Maha Thammarachathirat came to believe that the city would not be able to withstand a long siege due to a scarcity of food and a smallpox outbreak, so he surrendered the city. King Bayinnaung took Phitsanulok and Ayutthaya, and made Siam a Burmese tributary state. He required Maha Thammarachathirat to send his son?the Black Prince?to Bago as a hostage to ensure the king's fidelity)
* Khun Paen : was the name of a legendary Thai general who won various victories in wars. Apart from being a skilful swordsman, he was believed to possess great magical power, as it was believed that this amulet can grant the wearer with great personal protection against evil, harms and dangers. Many who had heard about Khun Paen image also must have known about its efficiency in improving one?s popularity and enhancing social relationship with people around?.素攀府 , ? 窟曼干 ? 拍坤平屏頌逢绿出塔 ? ( 禪定狀 ) 佛像 。文物年鋻 : 四百年以上坤平将军, General Khun Phien
Posted in phra khunpan with tags Khun Paen, Phra Khun Paen, thai amazing amulet, thai amulets, Thai Amulets Gallery, Thai Buddhist Culture, Thai Folk Articles, Wat Bang Klang, 坤聘将军佛牌, 坤平佛牌, 泰国佛教文物
SWIFT CODE KASITHBK
KASIKORN BANK CO.,LTD
SARAPHI DISTRICT CHIANGMAI TH
Mr.Phusawasdi Sukliang Kasikorn Bank saving account sarapli 286-2-37703-9
Saraphi District ,Chiangmai Thailand 50140 TEL 66-53-963029 66-093-3361-995
พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ เนื้อชินเขียว กรุวั ดใหญ่ไชยมงคล รหัสสินค้า: 000521
Price: 500,000.00 baht(20,000.00SGD) 14,706.00US$
พระขุนแผนพิมพ์ใหญ่ เนื้อชินเขียว กรุวัดใหญ่ไชยมงตล สภาพที่สวยงาม พระพักตร์พระเจ้า เหมือนหลวงพ่อโตวัดพนันเชิงวรวิหาร บงบอกถึงอำนาจบารมี นานๆๆจะเจอพระที่สวยมากแบบนี้ นักธุรกิจ ที่ทำการค้า ไม่ราบรื่น น่าจะมีใว้ติดตัว แต่ข้อแม้คือ ห้ามยุ่งเรื่องสตรี
|
พระขุนแผน เนื้อชิน กรุว้ดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา
พิมพ์พระหน้า-หลังเหมือนกัน
พระกรุวัดใหญ่ชัยมงคล พบจากพระเจดีย์ไชยมงคล มีพระเครื่องด้วยกันหลายพิมพ์ คือ พระขุนแผนเคลือบพิมพ์อกใหญ่ พิมพ์แขนอ่อน พระขุนแผนใบพุทราเนื้อดิน เนื้อชิน และพระพิมพ์นางพญา สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง รัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายหลังการทำศึกจนมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราช มีสมเด็จพระพนรัตน์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์พระขุนแผนเคลือบ พระขุนแผนเคลือบซึ่งเป็นพระเครื่องอันดับ ๑ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอาจจะเป็นอันดับ ๑ ของประเทศในระยะเวลาอันใกล้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น เชื่อกันว่าเป็นพระที่มหาราชผู้กู้ชาติเป็นผู้สร้าง คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราชโดยมีสมเด็จพระพนรัตน์อาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้าพิธี โดยได้รับอิทธิพลจากจีนไม่ว่าจะเป็นรูปแบบทางศิลปะและวิทยาการชั้นสูงที่สุดในเวลานั้น
เมื่อต้นปี๒๕๐๒ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต (เสด็จในกรมฯ) ซึ่งเป็นพระนัดดา (หลาน) ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่๕ และ สมเด็จพระนางเจ้าสุขมาลมารศรีพระอัครราชเทวีทรงทราบว่า ที่วัดเล็กๆซึ่งเกือบจะร้างอยู่แล้วแห่งนี้ มีเรือนโบราณเก่าแก่อยู่หลังหนึ่ง ที่ชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่มีผู้ใดบูรณะรักษาเลย แต่มีสิ่งสวยงามมาก พระองค์จึงทรงทำผาติกรรม ไถ่ถอนย้ายมาไว้ที่ วังสวนผักกาดและทรงให้มีการบูรณะพระประธานที่วัด ซึ่งชาวบ้านเรียกขานกันว่า หลวงพ่อขาว ระบุปีไว้ที่ฐานขององค์หลวงพ่อขาวว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.๒๑๔๓ สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ทั้งทรงให้สร้างศาลาสวดมนต์และศาลาท่าน้ำ ถวายวัดบ้านกลิ้งเป็นการทดแทนพร้อมกับบริจาคเงินสำหรับการซ่อมแซมตัวอาคารและภาพลายรดน้ำเป็นจำนวนมาก เสด็จในกรมฯ ประทานหอเขียนเป็นของขวัญแก่ "คุณท่านฦ" เมื่ออายุครบ๕๐ ปี ในวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๐๒ และเชิญชาวบ้านกลิ้งมาทั้งหมด ซึ่งขณะนั้นมีอยู่ประมาณ ๑๐๐ คน เพื่อให้มาชมหอเขียนที่ย้ายมาจากวัดบ้านกลิ้ง และได้ปลูกสร้างใหม่นี้ (ปัจจุบันสามารถชมได้ที่พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด) นอกจากการบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ในปี ๒๕๐๒ แล้ว เสด็จในกรมฯ ได้ทรงสร้างขุมทรัพย์ไว้ในฐานชุกชี ซึ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่คือ หลวงพ่อขาว ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง มีพระพุทธรูปองค์เล็กๆ อีก ๗ องค์ เรียงรายอยู่โดยรอบ
โดยไม่มีใครในสมัยนั้นคาดคิดถึงมาก่อนว่า การบูรณะซ่อมแซมในสมัยนั้น พระสงฆ์และชาวบ้านได้นำ พระเครื่องที่มีอยู่ส่วนนำมาเก็บรักษาไว้ในวัดซึ่งมีพระพุทธรูปสมัยอยุธยาพระเครื่องจำนวนมาก พระโคนสมอ พระขุนไกร แม้แต่พระแผงใบขนุนก็มี นอกจากนี้ยังมี พระขุนแผนเคลือบที่สมัยนั้นค่านิยมในการแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองยังไม่มีค่ามากมายอะไรนัก ชาวบ้านได้นำ พระขุนแผนเคลือบมาบรรจุไว้ในฐานชุกชี รวมไปถึงใต้ฐานพระองค์เล็กๆ ที่ประดิษฐานอยู่รายรอบพระประธานองค์ใหญ่ กลายเป็น ขุมทรัพย์ที่มีค่ามหาศาล ทิ้งไว้ให้ลูกหลานในทุกวันนี้ การบูรณะในเวลานั้นรวมถึงครั้งต่อๆ มา เป็นการบูรณะโดยชาวบ้านวัดบ้านกลิ้งเอง มีการโบกปูนทับ ทาสีใหม่ จากการสังเกตพระพุทธรูป ปูนปั้นคราวแตกกรุ พบว่ามีการเคลือบปูนปิดอยู่หลายชั้น
เมื่อวันที่๒ กันยายน ๒๕๕๐ มีการขุดพบ พระขุนแผนเคลือบ ได้ที่บริเวณฐานชุกชีของพระองค์เล็ก ที่เป็นองค์บริวารองค์หนึ่ง (จากรูปองค์ขวามือสุดของเรา) พร้อมกับ พระขุนไกรอีก๒ องค์ เวลานั้นยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นพระอะไร จึงมีการนำพระที่ขุดได้มาแจกจ่ายกันในหมู่พระสงฆ์และกรรมการวัด ต่อมามีพระสงฆ์วัดโปรดสัตว์รูปหนึ่ง (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดบ้านกลิ้ง) ได้นำพระที่ขุดได้ไปให้เซียนพระพิจารณาดู โดยบอกว่าเป็นพระมรดกตกทอด มีอยู่ด้วยกันหลายองค์ แต่ยังไม่ได้แบ่งปันกันระหว่างพี่น้อง
เซียนพระบอกว่าเป็น พระขุนแผนเนื้อชินกรุวัดใหญ่ชัยมงคล เช่าหากันแพงมากเป็นเงินแสนเงินนล้านขึ้นไป เมื่อได้รับทราบความจริงว่าเป็นพระขุนแผนเคลือบที่มีค่ามหาศาล เช่าหากันหลักล้าน ทำให้เกิดการเจรจาซื้อขายกันในหมู่พระสงฆ์ และกรรมการวัดด้วยกัน รวมถึงมีเซียนพระท้องถิ่นเข้ามามีส่วนในการขุดพระออกมาจำหน่าย หลายต่อหลายองค์ ทำให้มีพระหลุดไปจากวัดในช่วงแรกนั้นจำนวนหนึ่ง จนข่าวแพร่กันไปปากต่อปากถึงมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ปิดข่าวกันไม่อยู่ จึงมีการขุดค้นพระขุนแผนเนื้อชินอย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ ๔ กันยายน โดยความยินยอมของเจ้าอาวาส และกรรมการวัด ต่อเมื่อวันที่๖ กันยายน คณะกรรมการวัด ได้ลงมติให้มีการนำพระที่เหลือทั้งหมด ออกจำหน่ายรวม ๑๐ องค์ โดยมีการตั้งมูลค่าไว้สูงถึง ๑๐ ล้านบาท ถึงกระนั้นก็มีเซียนพระทั้งในท้องถิ่น และจากกรุงเทพฯ ไปซื้อพระทั้งหมดทันที หากจะนับรวมพระขุนแผนเนื้อชินที่มีการจำหน่ายอย่างลับๆจนถึงการซื้อขายอย่างเปิดเผย คาดว่ามีพระขุนแผนเนื้อชินทั้งหมดจำนวน ๒๘ องค์ ในจำนวนนี้เป็นพระแตกหักเกินกว่า ๑๐ องค์ เป็นความเสียหายเนื่องจากการขุดค้นโดยเร่งรีบและผิดวิธีการขุดพระทั้งสิ้น จากหลักฐานทั้งหมด ที่ได้จากทางวัด พอจะประมาณที่มาของ พระขุนแผนเคลือบกรุใหม่นี้ได้ว่าเป็นพระที่ชาวบ้านวัดบ้านกลิ้ง ซึ่งมีประมาณ ๑๐๐ คน ซึ่งเป็นหมู่บ้านของช่างฝีมือ (พิจารณาจากคำบอกเล่า และเรื่องของการบูรณะเรือนไม้ประวัติศาสตร์) ได้เดินทางไปช่วยบูรณะ วัดใหญ่ชัยมงคล ในตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา และเป็นต้นกำเนิดของ พระขุนแผนเคลือบ เมื่อเสร็จงานก็ได้นำ พระขุนแผนเคลือบติดไม้ติดมือมากลับมาบ้าน บางคนก็ได้นำองค์พระมาลงรักปิดทอง ต่อมาเมื่อปี๒๕๐๒ มีการบูรณะพระประธานที่วัดบ้านกลิ้ง ชาวบ้านก็ได้นำพระขุนแผนเคลือบที่ได้มานั้น บรรจุไว้ที่ฐานพระหลวงพ่อขาวเอาไว้ด้วย
พระขุนแผนเนื้อชิน ที่ขุดพบในฐานชุกชีพระหลวงพ่อขาว เมื่อค้นคว้าโดยละเอียดแล้ว ปรากฏว่าได้มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระนัดดา (หลาน) ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช อีกทั้งเรือนไทย ที่มีความสวยงามติดอันดับต้นๆ ของโลก ก็ยังสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช อีกด้วย
การขุดพบพระขุนแผนเนื้อชินวัดใหญ่ชัยมงคล กรุใหม่จากวัดบ้านกลิ้ง ในครั้งนี้ ได้สร้างสีสัน ให้กับวงการพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง จนมีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เจ้าของเดิมได้มาจากหลวงพ่อเจ้ย อิสสโร วัดห้วยเจริญสุข ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ลูกศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ตอนสมัยบวชเป็นสามเณรรับใช้หลวงพ่อเจ้ย หลวงพ่อจึงให้พระขุนแผน และพระของหลวงพ่อปาน อีกหลายองค์ แต่ไม่ได้นำติดตัวไปไหน เก็บใว้ที่บ้าน พอเป็นหนุ่มกลับมา ร่วมเคารพศพหลวยพ่อเจ้ย ปี 2517 พระของหลวงพ่อปานได้หายไปหมด..
ถ้าพูดถึงหลวงพ่อเจ้ย อิสสโร ศิษย์พี่หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดบ้านแค ท่านให้ความเคารพมาก มีปัญหาติดขัดเรื่องพระเวทย์ พระคาถาหลวงพ่อเดิม หรือหลวงพ่อศรี ท่านมักมาขอคำแนะนำจากหลวงพ่อเจ้ย บ่อยมาก มาแต่ละครั้งนานมาก ท่านจะปิดกุฏิวิหารหลวงพ่อดำไม่รับญาติโยม..เรื่องนี้ถามลูกศิษย์ได้ เช่น ไอ้ตุย มันเป็นหลานหลวงพ่อ มีครอบครัวเปิดร้านทองอยู่เมืองสรรค์ ไอ้นึง คนนี้เหนียวมาก เข็มฉีดยา แทงไม่เข้า เพราะมันเกเร หลวงพ่อเลยสักยันให้ลูกศิษย์คนนี้เป็นพิเศษ ..
ไอ้พวกเซียนพระที่ไม่รู้เรื่องจริง เขียนแต่งเอง..จินตนาการเอง เกิดไม่ทัน หรือทัน แต่ไม่รู้ทะลึ่ง เขียนไป..อันนี้ต้องระวัง..ก่อนจะเชียนอะไรต้องศึกษา ไม่รู้.ถามคนกินข้าวก้นบาตรหลวงพ่อ..นะเขา GURU จริง..
ยุคสงครามเวียดนาม จงอางศึก.. สิงห์บุรี มีองค์เดียวที่เหนียว สักยันตร์ คือหลวงพ่อเจ้ย
ยุคหลังสงคราม หลวงพ่อกวย ญาณบารมีสูง จึงเปิดรับสักยันตร์
เสือมเหศวร ตัวตนที่แท้จริง คือ หลวงพ่อเจ้ย มันก็ปีแล้ว..ทนไม่ไหวกับพวกยากเป็นเสือ
..ของแท้ เก่า พุธคุณสุดยอด..ราคา3แสนถื่อว่าไม่แพง..ถ้าเปรียบเทียบกับพระหลวงปู่ทิม..อยูที่บุญใครบุญมันจะเป็นเจ้าของ หลายท่านโทรมาถาม ว่าทำไมแพง พระอายุ 400 กว่าปี ผู้สร้า้งคือพระนเรศวร วัตถุมงคลพิมพ์นี้คือของล้ำค่า..หลายคนบอกผมก็มีแบบพี่ แฟนๆทั้งหลาย ครับ พระจะรู้ว่าแท้หรือปลอม ตอนที่คุณใช้อยู่ มีพุทธคุณดีหรือไม่ ถ้าไม่ก็ของปลอม พระเวลาแพง มันก็มีของปลอมขึ้นมาเต็มหมด เหมือนพระสมเด็จวัดระฆัง ใครๆก็บอกว่ามีหมด คนไทย 60 ล้านคน มีพระวัดระฆัง 30 ล้านคน มันตลกไหม..ต้องดูที่มาที่ไปของพระ ว่าได้มาอย่างไร..